ขอน้อมอาลัย สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์

เว็บนี้สามารถใช้งานได้ตามปกติแล้ว



ร่วมเติมเต็มทุกหัวใจของคนที่มีรักได้ที่นี่

แล้วคุณจะรู้ว่า
ปรารถนาจะเป็นผู้สั่งการ
หัวใจคือผู้เร่งเร้าให้รุ่มร้อน
เรือนกายคือผู้ปฏิบัติตามปรารถนา
ทุกสิ่งจะเป็นไปตามครรลองของมันเองทุกประการ

ที่นี่จะรวมบทวิจารณ์ รวมถึงข่าวสารสาระที่เป็นประโยชน์ต่างๆไว้
โดยเฉพาะที่มาจากความคิดเห็นของผู้แต่งเอง
ทั้งนี้ผู้แต่งจะไม่ขอรับผิดชอบใดๆ อันเกิดจากการนำข้อความดังกล่าวที่ปรากฏในบล็อกไปใช้อย่างไม่เหมาะสม
เข้ามาร่วมแสดงความคิดเห็น ติชม กันเยอะๆนะคะ
ขอบพระคุณไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะคะ


ด้วยความปราถนาดี

R-ka



ผู้เยี่ยมชมสามารถเข้าชมได้อีกบล็อกนึง คือ

http://www.rka-state.vox.com/


Mariah Carey - Bye Bye

lay on my high-heels

lay on my high-heels
งานบายเนียรปี2008 ค่ะ

วันพฤหัสบดีที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2550

ปลาโมลา โมล่า

Ocean Sunfish Family: Molidae (Molas or Ocean Sunfishes) Order: Tetraodontiformes (Puffers, Triggers, and Filefishes) FishBase: Ocean Sunfish Max Size: +4 meters, +2,300 kg Environment: Pelagic; Oceanodromous Depth Range: 3-480 meter Fisheries: Minor Commercial
เราจะพาท่านไปรู้จักกับปลาชนิดหนึ่ง ที่มีรูปร่างประหลาด ที่ว่าประหลาดนี้ก็คือรูปร่างไม่เหมือนปลาทั่วไปที่พวกเราคุ้นหน้าคุ้นตากันอยู่ มันคือ ปลาซันฟิช หรือปลาโอเชี่ยนนิคซันฟิช หรือ ปลาเฮดฟิช หรือ ปลามูนฟิช หรือถ้าจะเรียกเป็นภาษาไทย ก็จะเรียกได้ว่า ปลาแสงอาทิตย์ แล้วก็อีกอย่าง ถ้่าจะเรียกว่าปลาซันพิช ก็ควรจะเรียกชื่อเต็มๆ ว่าปลาโอเชี่ยนซันฟิช เพราะในโลกนี้มีปลาซันฟิชหลายประเภท ทั้งน้ำจืดและน้ำเค็ม ในส่วนของนักดำน้ำ ก็จะเรียกกันอย่างคุ้นปากว่า ปลาโมลา โมล่า
ปลาชนิดนี้มีเรื่องราวน่าสนใจพอสมควร มันจัดอยู่ในกลุ่มปลากระดูกแข็ง ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก (ปลาฉลามวาฬ จัดว่าเป็นปลาที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก แต่มันเป็นปลาทีี่่จัดอยู่ในกลุ่มปลากระดูกอ่อน) มันสามารถมีความยาวถึง 4 เมตร และหนักกว่า 2,300 กิโลกรัม หรือ 2 ตันกว่าทีเดียว มันอยู่ในวงศ์ Molidae ซึ่งนับเป็นญาติกับกลุ่มปลาปักเป้า (Puffer Fish)และก็เกี่ยวดองกับ ปลาวัว (Trigger Fish) อีกด้วย



ปลาโมลา โมล่า เป็นปลาที่มีปริมาณที่ไม่มากนัก ถึงแม้มันจะวางไข่ได้คราวละ 300 ล้านฟองก็ตาม แต่ปริมาณการรอดชีวิตนั้นน้อยมาก เนื่องจากมันเป็นปลาที่ตัวใหญ่และเคลื่่อนไหวได้เชื่องช้า เมื่อเปรียบเทียบกับปลาอื่นๆ จึงตกเป็นอาหารของสัตว์น้ำอื่นๆ เสียหมด สายพันธุ์ของปลาโมลา โมล่าที่พบเห็นมีด้วยกันอยู่ 5 สายพันธุ์ด้วยกัน ถึงแม้ว่าไม่มีปลาชนิดนี้ในบ้านเราแต่ก็มีปลาที่ถูกสต๊าฟไว้ในพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำบางแห่ง ซึ่งได้ตัวอย่างของปลาชนิดนี้มาจากชาวประมงที่ออกไปจับปลาในน่านน้ำเพื่อนบ้าน เช่นในประเทศ อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ ซึ่งใน 2 ประเทศนี้มีปลาชนิดนี้อยู่มากพอสมควร

ปลาโมลา โมล่าที่พบเห็นบ่อยที่สุด และพันธุ์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุด จะเป็นสายพันธุ์ที่เรียกว่า โอเชี่ยนซันฟิช ส่วนตัวที่เป็นสายพันธุ์อื่นๆ ก็มีชื่อเรียกต่างไป เ่ช่น ชาร์ปเทล โมล่า หรือ สเลนเดอร์ โมล่า เป็นต้น มันเป็นปลาที่มีรูปร่างแปลกประหลาดอย่างที่กล่าวไว้ข้างต้น รูปร่างมันเหมือนกับถูกตัดขาดครึ่งตัว ไม่มีส่วนหาง (เป็นที่ีมาของชื่อ เฮดฟิช) ลำตัวที่แบนกว้าง ผิวหนังที่ไม่มีเกล็ด แผ่นหนังที่ว่านี้มีความหนากว่า 15 มิลลิเมตร เหนียว และยืดหยุ่น ส่วนครีบท้องและครีบหลัง ยื่นยาวออกไปมาก มันใช้โปกไปทางซ้ายและขวาในการว่ายน้ำ ครีบหูกลม ปากค่อนข้างเล็ก มีฟันแบบเดียวกับปลานกแก้ว หรือปลาปักเป้า ส่วนของสมองถือได้ว่าเล็กมากๆ เมื่อเปรียบเทียบกับขนาดของตัว กล่าวคือมัีนมีขนาดเท่าหัวแม่มือเท่านั้นเอง

เมื่อยังเป็นลูกปลา มันมีขนาดเล็กมากประมาณ 2-3 มม. เท่านั้นเอง มีหนามแหลมเหมือนปลาปักเป้าอยู่ 4-5 อัน และจะหายไปหมดเมื่อโตขึ้น มันเป็นปลาที่อาศัยอยู่ในทะเลเปิด แต่ก็บพว่าเข้ามาหากินใกล้ฝั่งในบางครั้ง มักจะพบเห็นว่ามันว่ายน้ำช้าๆ ตามกระแสน้ำ บางช่วงจะอยู่ใกล้ผิวน้ำ จนครีบหลังโผล่เหนือผิวน้ำ เหมือนปลาฉลาม มันเป็นปลาทีีี่มีพยาธิ หรือปาราสิต ค่อนข้างมากที่บริเวณผิวหนัง มันจึงชอบว่ายไปตามกอสาหร่ายลอยน้ำ เพื่อให้ปลาพยาบาลช่วยตอดกินพยาธิ รวมทั้งมันชอบที่จะพลิกตัวลอยด้านข้างเพื่อให้พวกนกมากจิกกินปาราสิต ซึ่งการที่ัีมันชอบลอยตัวอาบแดดที่ผิวน้ำ จึงทำให้พวกเราเรียกมันว่า ปลาซันฟิช
แม้ว่ามันจะอยู่ใกล้ผิวน้ำค่อนข้างบ่อย แต่ก็พบว่ามันสามารถลงไปที่ความลึกกว่า 400 เมตรก็มี และที่แปลกก็คือ มันสามารถกระโดดขึ้นเหนือน้ำ สูงเป็นสิบฟุตเชียว มันเป็นปลาที่ีหากินลำพังว่ายน้ำไปเรื่อยๆ แต่บางครั้งจะพบพวกมัน อยู่รวมกันเป็นฝูงนับสิบตัวในบางท้องถิ่น อาหารของปลาโมลา โมล่า ก็คือพวกกุ้ง ปลาหมึก และปลาขนาดเล็ก นอกจากนี้ มันยังชอบกินแมงกะพรุนเป็นหลักอีกด้วย มันเป็นปลาที่ไม่นิยมเอามาบริโภค เนื่องจากเนื้อที่เหนียว ไม่อร่อย ที่สำคัญที่สุดก็คือมีรายงานว่าเนื้อของมันมีพิษ เช่นเดียวกับ ปลาปักเป้า
พฤติกรรมการกินอาหารของมันก็ไม่เหมือนใคร ด้วยเหตุที่ปากของมันค่อนข้างเล็ก มันจะใช้ปากกัดเหยื่อให้เป็นชิ้นเล็กๆ แล้วพ่นออกมาก่อนที่จะดูดเข้าปากไปใหม่ มันสามารถอมน้ำแล้วพ่นออกมาอย่างแรงแบบเครื่องยนต์เจ็ท เพื่อเปลี่ยนทิศทางว่ายน้ำ และใช้วิธีเดียวกันพ่นน้ำลงบนพื้นทราย เพื่อหาอาหารจำพวกสัตว์มีเปลือก ที่ซ่อนอยู่ใต้พื้นทราย ถึงแม้ว่าปลาโมลา โมล่า จะมีผิวหนังที่หนามากเพื่อป้องกันตนเอง แต่มันก็มีศัตรูอยู่มากพอสมควร ตอนที่มีเป็นเบบี๋ จะถูกกินโดยปลาที่ใหญ่กว่า และเมื่อโตขึ้น ก็จะถูกโจมตีจากปลาวาฬเพชฌฆาต แมวน้ำ หรือสิงโตทะเล แต่ที่ร้ายไปกว่านั้นก็คือ มนุษย์อย่างพวกเราที่แหละที่วางข่าย หรืออวน ถุงพลาสติกก็เป็นวัตถุอันตรายที่มันคิดว่าเป็นแมงกะพรุน ซึ่งเป็นอาหารของมัน
มีองค์กรวิทยาศาสตร์ทางทะเลหลายต่อหลายองค์กรด้วยกันที่ทำการศึกษาเกี่ยวกับปลาชนิดนี้ โดยการจับมันขึ้นมาและก็ติดเครื่องหมายที่ตัวปลา และทำการติดตามด้วยดาวเทียมเพื่อศึกษาพฤติกรรม การดำรงชีวิตของมัน ซึ่งทำให้เราได้รู้นิสัย และพฤติกรรมของปลาโมลา โมล่ามากขึ้น ทั้งนี้ไม่ใช่เพื่อการล่า แต่เพื่อการอนุรักษ์ เนื่องจากจำนวนปลาโมลา โมล่า ได้ลดน้อยถอยลงไปมาก ปลาโมลา โมล่า เป็นปลาที่น่้าสนใจ และศึกษาพฤติกรรมของมันเป็นอย่างยิ่ง แต่ทั้งนี้ไม่มีในบ้านเราอย่างแน่นอนเนื่องจากเป็นปลาที่ชอบกระแสน้ำเย็น มันชอบอาศัยอยู่ในบริเวณ รอยต่อของน้ำอุ่นและน้ำเย็น เพื่อที่เวลาหาอาหารมันสามารถที่จะเข้ามาหาอาหารในบริเวณน้ำอุ่นได้ และก็กลับไปใช้ชีวิตในแถบน้ำเย็นได้ ถ้าเราต้องการที่เจอปลาชนิดนี้ก็คงต้องไปดำน้ำกันแถวบาหลี ประเทศอินโดนีเซีย หรือประเทศพิลิปปินส์โน่น
ช่วงเวลาที่เหมาะสมที่จะมีโอกาสได้เจอเจ้าโมลาโมล่าในการดำน้ำที่บาหลีในปี 2007 • August 9th - August 17th • August 24th - September 1st • September 7th - September 15th • September 23rd - October 1st • October 7th - October 15th • October 22nd - October 30th

ไม่มีความคิดเห็น:

when i was young

when i was young
like a boy

จัดให้เต็มๆ

จัดให้เต็มๆ
มองไรนักหนา ไม่เคยเห็นคนน่ารักไง คนไรก็ไม่รู้