ขอน้อมอาลัย สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์

เว็บนี้สามารถใช้งานได้ตามปกติแล้ว



ร่วมเติมเต็มทุกหัวใจของคนที่มีรักได้ที่นี่

แล้วคุณจะรู้ว่า
ปรารถนาจะเป็นผู้สั่งการ
หัวใจคือผู้เร่งเร้าให้รุ่มร้อน
เรือนกายคือผู้ปฏิบัติตามปรารถนา
ทุกสิ่งจะเป็นไปตามครรลองของมันเองทุกประการ

ที่นี่จะรวมบทวิจารณ์ รวมถึงข่าวสารสาระที่เป็นประโยชน์ต่างๆไว้
โดยเฉพาะที่มาจากความคิดเห็นของผู้แต่งเอง
ทั้งนี้ผู้แต่งจะไม่ขอรับผิดชอบใดๆ อันเกิดจากการนำข้อความดังกล่าวที่ปรากฏในบล็อกไปใช้อย่างไม่เหมาะสม
เข้ามาร่วมแสดงความคิดเห็น ติชม กันเยอะๆนะคะ
ขอบพระคุณไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะคะ


ด้วยความปราถนาดี

R-ka



ผู้เยี่ยมชมสามารถเข้าชมได้อีกบล็อกนึง คือ

http://www.rka-state.vox.com/


Mariah Carey - Bye Bye

lay on my high-heels

lay on my high-heels
งานบายเนียรปี2008 ค่ะ

วันจันทร์ที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2550

เล่าบรรยากาศการแปลงเพศ5

เข้าห้องผ่าตัด" 23 มีนาคม 2549




.... ต่อ จากตอนที่แล้ว....





6.00 น.
... ขณะนี้ก็เหลือเวลาอีกครึ่งชั่วโมงค่ะ กับการรอรถเข็นมารับเวลาเข้าห้องผ่าตัด
ขอบอกว่าตื่นเต้นมากกกกกกกกกกกกกกกกกก
เต้นแร้งเต้นกาอยู่ในห้อง เปิดเพลงจากโน๊ตบุ๊คไป เต้นไป สงบสติอารมณ์ไม่ค่อยได้ ใจไม่อยู่กะเนื้อกะตัว
ไหว้พระไหว้เจ้า ไหว้เจ้าที่เจ้าทาง ไหว้พ่อไหว้แม่ ไหว้บอกทุกๆคนว่า.. หนูจะได้เกิดใหม่แล้วนะ

ส่วนเพื่อนก็บอกว่าให้ถ่ายรูปช้างน้อยเก็บไว้ เผื่อเดี๋ยวคิดถึงมันจะได้เอามาดู (เวนกำ) 555
ก็คุยกับเพื่อนไปเรื่อยค่ะ ดูวิวนู่นนี่ในห้องไป เพราะวิวสวยมากกกก เหมาะกับการพักฟื้นเลยค่ะ
อ้อ ลืมบอกไปว่า คุณหมอจัดให้เราพักอยู่ใน รพ. 5 วันนะคะ
แล้วหากพอผ่าตัดครบ 7 วัน จะต้องมีการเอาสายฉี่ออกค่ะ
พูดง่ายๆคือ เราต้องอยู่ต่ออีก 2 วันเพื่อให้ครบ 7 วัน
แล้วอีก 2 วันนั้น เราก็ต้องออกค่าห้องพักเองนะคะ ใครจะไม่อยู่พักต่อก็ได้ค่ะ
ก็กลับบ้านไปพักได้ แล้วอีก 2 วันหลังจากออกจาก รพ. ก็ค่อยไปถอดสายฉี่ออกที่คลินิกคุณหมอสุพรค่ะ
แต่ถ้าคุณอยู่ต่อใน รพ. อีก 2 วันเนี่ย ก็จะได้ถอดสายฉี่ออกใน รพ.เลย
จะได้สะดวกค่ะ ไม่ต้องต้องหิ้วถุงฉี่ไปไหนมาไหนด้วย สะดวกสบายกว่าค่ะ
แต่ดิชั้นเลือกที่จะกลับบ้านค่ะ แหะๆ

เวลานี้ก็รอเวลาไปเรื่อยๆ
ถ่ายรูปกับเพื่อนบ้าง เปิดเพลงเต้นไปด้วย แบบว่ามันตื่นเต้นมากกกกค่ะ
ใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเลย รอไปเรื่อยๆจน 7 โมง พยาบาลก็เดินเข้ามาถามความเรียบร้อย
...โกนเรียบร้อยแล้วใช่ไหม...สวนทวารแล้วใช่ป่าว... แล้วก็เอายามาให้ทาน ก็ทานไปค่ะ
ตอนแรกก็ งง เล็กน้อยนะคะ เพราะหมอห้ามทานอะไรก่อนเข้าห้องผ่าตัด ไม่ว่าจะน้ำก็ตาม
ก็เลยถามเค้าว่า ทานน้ำได้เหรอคะ เพราะคุณหมอห้ามทานอะไรเลยก่อนเข้าห้องผ่าตัด
พี่พยาบาลแกก็บอกว่า "ทานได้ค่ะ ไม่เป็นอะไร"
"พี่คะแล้วผมยาวอย่างนี้ทำยังไงดีคะ" ดิชั้นถามด้วยความสงสัย
"อ๋อ ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวเข้าห้องผ่าตัดเดี๋ยวเค้าเก็บผมให้ค่ะ" พี่พยาบาลตอบ
แล้วแกก็เดินสำรวจนู่นนี่ในห้อง แล้วสักพัก ก็มีอาหารมาเสริฟค่ะ แต่ดิชั้นก็ทานไม่ได้
ก็เลยให้เพื่อนที่เค้ามาเฝ้าดิชั้นนั่นแหละทานค่ะ

อ้อ... เรื่องอาหารสำหรับคนเฝ้าไข้ไม่มีนะคะ
หากคนเฝ้าหิว ก็ต้องลงไปหาทานแถวหน้าโรงพยาบาลค่ะ เห็นเพื่อนดิชั้นลงไปกินบ่อยๆ
แต่ทว่าดิชั้นไม่ค่อยหิวค่ะ ซึ่งเป็นปกติของคนที่ผ่าตัด มันจึงไม่ค่อยหิวมากมาย
อาหารคนไข้ในแต่ละมื้อของดิชั้น จึงตกไปถึงท้องของคุณเพื่อนอยู่บ่อยๆ 555

แล้วสักพักพี่พยาบาลก็เอาชุดมาให้เปลี่ยนอีกทีนึง รอบนี้ชุดเป็นกระโปรงสีชมพูค่ะ
เดาว่าคงจะง่ายต่อการถอดในในห้องผ่าตัด เค้าจะได้ถอดให้เราได้สะดวก
และก็รอๆๆๆๆๆๆๆ รอเมื่อไหร่จะถึง 7 โมงครึ่ง





เวลา 7.30 น. มีคนมาเคาะประตูห้องค่ะ รถเข็นมารับแล้ววววววววววววววววววววววววววววว
คุณๆผู้อ่านข๋าาาา เวลานี้นะ หัวใจดิชั้นมันตุ๊มๆ ต่อมๆ มากกกกกกค่ะ เหมือนเกอรี่เบอรี่เข้าสิงดิชั้นเลยทีเดียว
ตอนนี้ก็รีบลาเพื่อน บอกเพื่อนไปว่า "เดี๋ยวกูไปเกิดใหม่ก่อนนะ แล้วบ่ายๆ เจอกันนะมึง แล้วเจอกันนะ"
บอกได้ตอนนี้เลยค่ะว่า กำลังใจสำคัญมาก อย่าลืมเอาเพื่อนสนิทหรือคนที่เรารักไปเฝ้านะคะ
เพราะกำลังใจมันสำคัญมากๆค่ะ ถ้าไปคนเดียวนี่ เหงาๆ ยังไงก็ไม่รู้....

มีคนมารับ 2 คนค่ะ คนนึงเป็นพยาบาล อีกคนนึงเป็นบุรุษพยาบาล เข็นเตียงมารอรับดิชั้นอยู่หน้าห้องพัก
ดิชั้นก็ค่อยๆขยับตูดขึ้นไปนอนขนเตียงค่ะ (เตียงสูงจัง อิอิ) นอนเสร็จ ทุกอย่างพร้อม ก็มุ่งหน้าสู่ห้องผ่าตัดค่ะ
คุณบุรุษพยาบาลเข็นไปเรื่อยๆค่ะ และพี่พยาบาลสาวก็เดินตามมาด้วยหนึ่งคน ถือแฟ้มอะไรสักอย่างมาด้วย
ก็เข็นไปเรื่อยๆ เข้าลิฟท์ > ลงหรือขึ้นไม่รู้ > เข็นๆๆๆ > และแล้วก็ถึงประตูหน้าห้องผ่าตัด
ก็รอมีคนมาเปิดประตู แล้วสักพักก็เข้าไปข้างในค่ะ เจอพี่พยาบาลคนนึงมารับที่หน้าประตู
ดูเค้าเป็นคนพูดจาดีมากกกกค่ะ "ตื่นเต้นรึป่าว" พี่เค้าถาม
"มากกกกกกกกกกกกกกค่ะ ตื่นเต้นมากที่สุดในชีวิต" ดิชั้นตอบ 555
ก็ถามไปนู่นนี่ไปเรื่อยๆ พูดจาดีมาก เค้าคงรู้ว่าเราตื่นเต้นมาก
ก็เลยพยายามชวนคุยนู่นนี่ เพื่อให้เราคลายความวิตกกังวลไป
แล้วเค้าก็เอาเตียงอีกอันมาไว้ข้างๆ เพื่อเปลี่ยนเตียงรถเข็นค่ะ ขยับตัวเปลี่ยนเตียงแล้ว
ทีนี้ก็เข็นเข้าห้องผ่าตัดที่อยู่ข้างในแล้วล่ะค่ะ ผ่านประตูเยอะมากกกกกกกกก เข้าไปหลายชั้นมากๆ
จนมาถึงห้องๆนึงค่ะ คิดว่าห้องนี่แหละที่ชั้นจะต้องถูกตอนแน่ๆ

เตียงก็ค่อยๆเข็นเข้าไปเรื่อยๆ เรื่อยๆ ผ่านหมอ ผ่านพยาบาล ผ่านวิสัญญี ผ่าน... ฯลฯ
คนในห้องนี้เยอะมากๆๆๆๆๆๆ ค่ะ ใครเป็นใครบ้างตำแหน่งไหนบ้าง ดิชั้นไม่สามารถทราบได้ว่าทุกคนทำอะไร
แต่ทุกคนที่อยู่ในห้องผ่าตัด ล้วนแล้วคือคนที่จะช่วยคุณหมอในการผ่าตัดวันนี้ทุกคน
ไม่ได้นับนะคะว่ากี่คน แต่รู้ว่าเยอะมากค่ะ คร่าวๆก็ประมาณ 20 คนเห็นจะได้
แต่ละคนก็คุยเสียงดังเซ็งแซ่กันไปเรื่อยเปื่อย......

แล้วเค้าก็เข็นดิชั้นไปตรงบริเวณผ่าตัดค่ะ มีไฟอันใหญ่ๆ เครื่องไม้เครื่องมือเต็มไปหมด
พอเตียงไปถึงแถวนั้น เค้าก็ให้ดิชั้นเปลี่ยนเตียงอีกที เค้าเอาเตียงมาไว้ใกล้ๆ แล้วให้เราขยับไปนอนอีกเตียงนึงค่ะ
พอดีนี้เค้าก็เอาผ้ามาคลุม แล้วบอกว่า ถอดช่วงล่างออกเลย ก็คือถอดกระโปรงออกเลยนั่นแหละค่ะ
ให้ถอดในผ้าคลุมนั่นค่ะ ดิชั้นก็ค่อยๆถอดๆ กลัวว่าเด่วผ้าหลุดแล้วจะโป๊ต่อหน้าธารกำนัล 555
แล้วเดี๋ยวสักพักก็มีคนเอาสายนู่นนี่มาให้ใส่ค่ะ ใส่สายให้น้ำเกลือตรงข้อมือ เอาที่วัดชีพจรมาใส่ให้
นู่น นี่ เยอะมากค่ะ แล้วก็ชวนคุยไปเรื่อยๆ แล้วก็มีถามประวัติเคยผ่าตัดไหม พ่อแม่เป็นเบาหวานรึป่าว โรคหัวใจรึป่าว
โรคประจำตัว เคยเป็นไรมาก่อนรึป่าว บลา บลา บลา.... แล้วก็เสร็จค่ะ

แต่ตอนนี้ยังไม่เห็นหมอสุพรมาเลยนะคะ พยาบาลก็ให้เรานอนรอไปสักพัก
ดิชั้นก็นอนไปเรื่อยๆ อากาศหนาวมากค่ะ สั่นๆๆๆ 555 แอร์เย็นเจี๊ยบบบบบบบบบบบบบบ
มองดูนาฬิกาในห้องผ่าตัดไปเรื่อยๆ พอดีมีนาฬิกาตรงปลายเตียงข้างบนค่ะ ก็มองไป...

"เอ... 8 โมงแล้ว ยังไม่เจอหมอเลย"...........?..........?...?

แล้วจู่ๆ ก็สลบไปตอนไหนไม่ทราบได้ค่ะ
ตื่นมาอีกทีก็รู้สึกตัวอยู่หน้าประตูห้องผ่าตัดแล้ว บุรุษพยาบาลกำลังเข็นดิชั้นกลับห้องค่ะ
"...เฮ้ย! เสร็จแล้วเหรอวะเนี่ย..." ในใจดิชั้นคิดตอนนั้น
เพราะมันรู้สึกว่าเร็วมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
เหมือนนอนหลับไปไม่กี่นาทีแล้วตื่น งง มากกกก
ตอนนั้นขอคลำก่อนเลยค่ะ ถึงจะสะลึมสะลือไม่มีแรงตื่นก็ตาม แต่ขอคลำก่อนเหอะ ว่าหมอตัดออกไปหมดรึยัง
ในใจตอนนั้นคิดว่า หมอทำเสร็จแล้วเหรอ? ทำไมเร็วจัง? หรือว่าหมอทำให้แค่ครึ่งเดียว? ยังทำไม่เสร็จ?
หรือว่าต้องมาทำต่อทีหลัง?... ในใจตอนนั้นคิดไปหมดค่ะ เพราะมันไวจริงๆ

พอถึงห้องพัก เค้าก็อุ้มดิชั้นเปลี่ยนเตียงค่ะ ให้ไปนอนของห้องพักอันแสนจะนอนสบายยยย
ตอนนี้ยังมึนมากค่ะ สะลึมละลือ อาจจะด้วยเพราะฤทธิ์ของยาสลบที่มันยังไม่หมด
เวลานั้นก็กึ่งหลับ กึ่งตื่น หลับบ้างตื่นบ้าง ก็เลยได้มองนาฬิกาในห้องพักตอนนั้นว่า มันก็บ่าย 2 แล้ว
ไอ้เราก็เลยโล่งใจ ว่าตอนนั้นคงเสร็จแล้วล่ะ เพราะมันผ่านมา 6 ชั่วโมงแล้ว หมอคงให้เราเรียบร้อยแล้ว
ก็เลยสลบ นอนหลับปุ๋ยยยยยยยยยยยยไปเลย เพราะยังไงก็สบายใจละ อิอิ

ไม่มีความคิดเห็น:

when i was young

when i was young
like a boy

จัดให้เต็มๆ

จัดให้เต็มๆ
มองไรนักหนา ไม่เคยเห็นคนน่ารักไง คนไรก็ไม่รู้