ถ้าหากโลกนี้เป็นหมู่บ้านของคน 100 คน
คิดว่าคงมีหลายท่านเคยอ่านไปแล้ว เป็นบทความที่ข้าพเจ้าชอบที่สุดบทความหนึ่งเลยค่ะ เมื่อก่อนเคยอ่านตอนออกมาเป็นหนังสือที่ญี่ปุ่น วันนี้ไปเจอเป็นแฟลช อดคิดถึงไม่ได้เลยลองแปลมาลงค่ะ"ถ้าหากโลกนี้เป็นหมู่บ้านของคน 100 คน"หากจะนำสัดส่วนของประชากรทั้งโลกมาย่อให้เป็นหมู่บ้านของคน 100 คนหมู่บ้านนี้จะมีคนเอเชีย 57 คน คนยุโรป 21 คน คนอเมริกาเหนือใต้ 14 คน และคนแอฟริกา 8 คน52 คนจะเป็นผู้หญิง และ 48 คนจะเป็นผู้ชาย89 คนเป็นผู้รักเพศตรงข้าม และ 11 คนเป็นผู้รักเพศเดียวกัน6 คนในโลกนี้เป็นเจ้าของทรัพย์สิน 59 เปอร์เซนต์ของโลก และ 6 คนนั้นจะถือสัญชาติอเมริกา80 คนอาศัยอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ต่ำกว่ามาตราฐาน70 คนอ่านเขียนไม่ได้50 คนกำลังทุกข์ทรมานด้วยความอดอยาก1 คนกำลังจะตายและ 1 คนกำลังจะเกิดมา1 คนกำลังเรียนในมหาวิทยาลัย และมีเพียง 1 คนที่มีคอมพิวเตอร์เป็นของตัวเองเมื่อได้มองโลกของเราจากแผนผังที่ถูกย่อลงนี้แล้ว ย่อมจะเห็นได้ว่าการยอมรับผู้อื่นในสิ่งที่เขาเป็นอยู่การเข้าใจความแตกต่างระหว่างตนเองกับผู้อื่นและการให้การศึกษาเพื่อที่จะทราบถึงความจริงเหล่านี้นั้นเป็นสิ่งที่สำคัญเช่นใดยังมีอีกหลายเรื่องที่เราต้องคิดให้ดีถ้าหากว่าเช้านี้ คุณลืมตาตื่นขึ้น และสามารถคิดว่าตนมีสุขภาพแข็งแรงดี...คุณมีความสุขกว่าคนอีกหนึ่งล้านคนที่อาจจะไม่สามารถมีชีวิตรอดพ้นสัปดาห์นี้ไปได้ถ้าหากว่าคุณไม่เคยประสบกับภัยสงคราม ความโดดเดี่ยวของการคุมขัง ความยากลำบากในคุก หรือความทุกข์ทรมานจากความหิวโหย....คุณมีความสุขกว่าคนอีกห้าร้อยล้านคนถ้าหากว่าคุณสามารถไปมิซาที่โบสถ์ได้โดยไม่ต้องหวนนึกถึงความทุกข์ที่ตามรังควาน การกักตัว การทรมานร่างกาย หรือความหวาดกลัวต่อความตาย....คุณมีความสุขกว่าคนอีกสามพันล้านคนถ้าหากว่าคุณมีอาหารอยู่ในตู้เย็น มีเสื้อผ้าให้สวมใส่ มีหลังคาอยู่เหนือศีรษะ และมีที่ให้หลับนอน...คุณมีชีวิตอันสมบูรณ์พูนสุขกว่าคน 75 เปอร์เซนต์บนโลกนี้และถ้าหากว่าคุณมีเงินฝากในธนาคาร มีเงินอยู่ในกระเป๋า และมีเงินเก็บอยู่ในซอกใดซอกหนึ่งของบ้าน...คุณเป็นหนึ่งใน 8 เปอร์เซนต์ที่ร่ำรวยที่สุดของโลกนี้ถ้าหากว่า พ่อแม่ของคุณยังมีชีวิตอยู่ และทั้งสองยังอยู่ร่วมกัน นั่นเป็นความโชคดีที่ไม่ได้มีบ่อยนักถ้าหากว่าคุณกำลังอ่านข้อความนี้อยู่ ในวินาทีนี้ ความสุขของคุณคงจะเพิ่มเป็นเท่าตัวเพราะใครบางคนที่รักห่วงใยคุณได้ส่งข้อความนี้มาถึงและยิ่งไปกว่านั้น คุณโชคดียิ่งกว่าคนอีกสองพันล้านคนทั่วโลกที่อ่านหนังสือไม่ออกเลยคนสมัยโบราณเคยกล่าวไว้"สิ่งใดที่เราให้ไป สักวันก็จะกลับมาหาตัวเราเอง"จงทำงานด้วยความยินดีโดยไม่คิดถึงเงินตอบแทนจงรักผู้อื่นเหมือนตนเองไม่เคยถูกทำร้ายมาก่อนจงเต้นรำอย่างเสรีเหมือนไม่มีผู้ใดเฝ้ามองอยู่จงร้องเพลงอย่างมีชีวิตชีวาเหมือนไม่มีผู้ใดได้ยินและมีชีวิตอยู่ราวกับ ณ ที่นี้คือสวรรค์บนดินมอบข้อความนี้ให้กับผู้อื่นและขอให้คุณเป็นดังแสงสว่างในวันนั้นสำหรับเขาด้วย
Mariah Carey - Bye Bye
lay on my high-heels
RKA chating
วันศุกร์ที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2551
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น