ขอน้อมอาลัย สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์

เว็บนี้สามารถใช้งานได้ตามปกติแล้ว



ร่วมเติมเต็มทุกหัวใจของคนที่มีรักได้ที่นี่

แล้วคุณจะรู้ว่า
ปรารถนาจะเป็นผู้สั่งการ
หัวใจคือผู้เร่งเร้าให้รุ่มร้อน
เรือนกายคือผู้ปฏิบัติตามปรารถนา
ทุกสิ่งจะเป็นไปตามครรลองของมันเองทุกประการ

ที่นี่จะรวมบทวิจารณ์ รวมถึงข่าวสารสาระที่เป็นประโยชน์ต่างๆไว้
โดยเฉพาะที่มาจากความคิดเห็นของผู้แต่งเอง
ทั้งนี้ผู้แต่งจะไม่ขอรับผิดชอบใดๆ อันเกิดจากการนำข้อความดังกล่าวที่ปรากฏในบล็อกไปใช้อย่างไม่เหมาะสม
เข้ามาร่วมแสดงความคิดเห็น ติชม กันเยอะๆนะคะ
ขอบพระคุณไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะคะ


ด้วยความปราถนาดี

R-ka



ผู้เยี่ยมชมสามารถเข้าชมได้อีกบล็อกนึง คือ

http://www.rka-state.vox.com/


Mariah Carey - Bye Bye

lay on my high-heels

lay on my high-heels
งานบายเนียรปี2008 ค่ะ

วันอาทิตย์ที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2550

แฮรรี่ พอตเตอร์ ต่อจนจบ

บทที่24 ครับ หลังจาก Dobby ตาย ทุกคนก็วิ่งออกมาหาแฮรี่ โดยที่รอนมาเฮอไมโอนี่เข้าไปพักข้างใน ส่วน Deanกับ nFleur ก็พาGriphook ที่บาดเจ็บไปรักษา แฮรี่บอกว่าเขาต้องการฝังศพDobby ให้เหมาะสม และปฏิเสธที่จะใช้เวทย์มนตร์เสกหลุมฝังศพ แฮรี่ให้ทุกคนเข้าไปข้างในแล้วเริ่มต้นขุดหลุมด้วยตัวเองคนเดียว ถึงแม้แผลเป็นจะปวดแปลบ แต่แฮรี่ก็เรียนรู้ที่จะควบคุมความเจ็บปวดไว้ (เจอมาหนักนี่เนอะ) ขุดไปก็คิดไป Hallows / Horcruxes / Hallows / Horcruxes แล้วแฮรี่ก็คิดได้ว่า ตอนนี้ Vold อยู่ที่ไหน และนึกถึงหางหนอนที่ถูกฆ่า สักพัก รอน กับ ดีนก็ออกมาช่วยขุดด้วย พอขุดเสร็จ รอนก็ถอดรองเท้าตัวเองสวมให้ Dobby ส่วนดีนก็เสกย์หมวกให้Harry เอาไปสวมหัวDobby แล้วทุกคนก็ออกมาข้างนอก เฮอร์ไมโอนี่ยังอาการไม่ดี ตัวซีดหนาวสั่น ส่วนลูน่าก็ปิดตาให้ศพของDobby แฮรี่วางศพของDobby ลงในหลุม ลูน่าบอกว่าทุกคนควรจะพูดอะไรซักหน่อย โดยเธอเป็นคนเริ่มก่อน เธอกล่าวขอบคุณDobby ที่ช่วยชีวิตขจองเธอไว้ และมันไม่ยุติธรรมเลยที่Dobbyจะต้องมาตายทั้งๆที่เป็นคนดีและกล้าหาญ คนอื่นรวมทั้งแฮรี่พูดอะไรไม่ออกนอกจากคำขอบคุณหรือคำลาก่อน หลังจากนั้นพอทุกคนกลับเข้าไปข้างใน แฮรี่ก็ขอเวลาอยู่กับหลุมศพคนเดียวสักพัก แฮรี่ล้วงเข้าไปในกระเป๋า จับไม้กายสิทธิ์ทั้งสอง แล้วเลือกอันที่สั้นกว่า เขาเสกคาถาใส่หินก้อนใหญ่ๆแถวนั้นเพื่อทำป้ายหลุมฝังศพในDobby “HERE LIES DOBBY, A FREE ELF.” พอแฮรี่เข้ามาด้านใน Bill ก็บอกว่าได้ย้ายทุกคนจาก Burrow ไปMuriel เรียบร้อยแล้ว เพราะพวก Death Eater รู้ว่า รอนอยู่กับแฮรี่ และครอบคัว Weasley จะตกเป็นเป้าหมายได้ และก็บอกว่าจะย้าย Olivander กับ Griphook ที่บาดเจ็บไปที่ Muriel ด้วย แต่แฮรี่สวนว่า เขาต้องคุยกับสองคนนั่นเป็นการส่วนตัว (ท่าทีแฮรี่ตอนนี้เปลี่ยนไปเลยครับ เข้มโหดทีเดียว) แฮรี่ขอตัวไปล้างมือที่เปลื้อนโคลน ระหว่างที่ล้างแฮรี่ก็คืดไปถึงว่าใครเป็นคนส่งDobby มาช่วย แล้วก็นึกไปถึงประโยคของDumbledore “จะมีความช่วยเหลือที่ฮอกวอร์ตเสมอเมื่อมีคนต้องการ (ภาษาไทยแปลแบบนี้รึเปล่าหว่า)” (ย่อหน้าต่อไป อยากแปลเต็มๆช่วงครับ เพราะมันคมมากๆ) ........Harry understood and yet did not understand. His instinct was telling him one thing, his brain quite another. The Dumbledore in Harry’s head smiled, surveying Harry over the tips of his fingers, pressed together as if in prayer แฮรี่เข้าใจแต่ก็ยังไม่เข้าใจ สัญชาติญาณบอกเขาอย่างหนึ่ง แต่สมองก็บอกเขาอีกอย่าง ภาพของDumbledoreในหัวของแฮรี่กำลังยิ้ม มือประสานกันคล้ายกับกำลังสวดภาวนา You gave Ron the Deluminator…You understood him…You gave him a way back… คุณให้Deluminator กับรอน ...... คุณเข้าใจรอน ......คุณให้ทางออกกับเขา And you understood Wormtail too…You knew there was a bit of regret there, somewhere และคุณก็เข้าใจหางหนอน ... คุณรู้ว่าเขายังมีความสำนึกผิดซ่อนอยู่ในใจ … And if you knew them…What did you know about me, Dumbledore? Am I meant to know but not to seek? Did you know how hard I’d feel that? Is that why you made it this difficult? So I’d have time to work that out? .....ถ้าคุณเข้าใจพวกเขา แล้วผมล่ะ ดัมเบิลดอร์...ผมควรจะได้รู้แต่ห้ามค้นหาอย่างนั้นหรือ ..... คุณรู้ไหมว่ามันหนักหนาเหลือเกิน.... เพราะเหตุนี้เหรอ คุณถึงทำให้มันยากนัก เพื่อจะให้ผมใช้เวลาในการค้นหามัน (แปลไม่ได้เรื่องเลยตรู แนะนำให้อ่านภาษาอังกฤษครับ ชอบๆๆ) หลังจากคุ่นคิดอยู่สักพัก แฮรี่ก็ขอคุยกับ Olivander และ Griphook ...Fluer คัดค้านยและบอกว่าพวกเขายังเจ็บหนักอยู่ แต่แฮรี่บอกว่า ไม่มีเวลาแล้วบิลถามว่านี่มันเกิดอะไรขึ้น อยู่ดีๆแฮรี่ก็โผล่มาพร้อมศพของเอล์ฟ กับ ก๊อบลินที่บาดเจ็บ แฮรี่บอกว่า เขาบอกไม่ได้ และยังบอกอีกว่า บิลก็เป็นสมาชิกของ Order และรู้ว่า Dumbledore ฝากภารกิจไว้ให้ตัวเขา (อย่าถาม ว่างั้นเถอะ) บิลก็เลยถามว่า จะคุยกับใครก่อน คนขายไม้ หรือ ก๊อบลิน แฮรี่ลังเลว่าจะเอาเรื่องไหนก่อนดี Hallows หรือ Horcruxes ....และก็ตัดสินใจเลือก.....Griphook แฮรี่ขอให้ รอนกับเฮอร์ไมโอนี่เข้าไปด้วย Griphook บอกว่าแฮรี่เป็นพ่อมดที่แปลกดูจากที่แฮรี่ทำหลุมฝังศพให้กับ Dobby ซึ่งเป็นเอล์ฟประจำบ้าน แล้วก็มีการถกเถียงเล็กน้อยระหว่างรอนกับ griphook เรื่อง “wand carrier” (ปัญหาระหว่างพวกพ่อมดที่ไม่ยอมให้ goblin ซึ่งสามารถให้เวทย์ได้อยู่แล้ว ถือครองไมกายสิทธิ์ เพราะจะทำให้มีอำนาจยิ่งขึ้นไปอีก ส่วนรอนเถียงว่า goblin ก็ไม่บอกความลับของการหลอมดลหะกับพวกพ่อมดเหมือนกัน) แล้วก้เข้าสู่หัวข้อหลักที่คุยกับ Griphook ก็คือ แฮรี่บอกว่าจะบุกเข้าปล้นกริงกอร์ต. ... และจะบุกห้องเซฟของตระกูล Lestranges..... ถึง griphook จะบอกว่าเป็นไปไม่ได้ แต่แฮรี่ก็บอกว่า ก็วันที่ แฮรี่ไปกริงกอร์ตวันแรกไง ที่มีคนบุกเข้าไปสำเร็จ Griphook ก็ปฏิเสธว่านั่นมันห้องเปล่าๆ แต่ของ Lestranges มันต้องแน่นหนาแน่ๆ แล้วยังถามว่า จะเข้าไปทำอะไร เพราะดาบของกริฟฟินดอร์ในห้องนนั้นมันก็ของปลอม (ของจริงอยู่นี่) แฮรี่บอกว่าในห้องมันมันมีอย่างอื่นอีกนอกจากดาบ...griphook บอกว่าความลับลูกค้าเปิดเผยไม่ได้ (แน่ะ เล่นตัวอีก) แฮรี่ขอให้griphook ช่วยพวกเขาในการที่จะบุกเข้าไปในเซฟ ซึ่ง griphook บอกว่าขอคิดดูก่อน พอgriphook ออกมา แฮรี่ก็บอกรอนว่า ตอนที่แฮรี่โกหก เบลลาทริกซ์ว่าบุกห้องเซฟมาแล้ว เบาลาทริกซ์เหมือนกลัวอะไรบางอย่างจับจิต ซึ่งแฮรี่เดาว่าสิ่งของอีกสิ่งที่ซ่อนอยู่ในห้องเซฟก็คือ Horcrux อีกชิ้นหนึ่ง ถึงทำให้ เบลลาทริกซ์ออกอาการเมื่อได้ยินว่าโดนบุกเซฟ รอนสงสัยเพราะนึกว่า Horcrux จะถูกซ่อนในที่ที่Voldermort เคยไป แล้วก็ถามว่า Voldermort เคยไปกริงกอร์ตเหรอ แฮรี่บอกว่า ตอนเด็ก Voldermort ยากจน น่าจะเป็นปมที่ทำให้อิจฉาพวกที่มีกุญแจเซฟที่กริงกอร์ต จึงเป็นไปได้ว่าความเก็บกดนี้จะทำให้โวลดี้เอาของไปซ่อนที่กริงกอร์ต ต่อมาก็เป็นคิวของโอลิแวนเดอร์ ...โอลิแวนเดอร์กล่าวขอบคุณแฮรี่ที่ช่วยเขาออกจากการโดนทรมานอย่างหนัก... แฮรี่บอกไม่เป็นไร แล้วก็ส่งไม้กายสิทธิ์ที่หักครึ่งของเขาให้โอลิแวนเดอร์ซึ่งโอลิแวนเดอร์ก็บอกว่า ถ้าเสียหายขนาดนี้คงจะซ่อมไม่ได้แล้ว แฮรี่เลยเอาไม้อีก 2 อันในกระเป๋าให้โอลแวนเดอร์ดู ซึ่งโอลิแวนเดอร์ก็บอกได้ทันทีว่าเป็นของ เบลลาทริกซ์ กับของเดรโก มัลฟอย ...แฮรี่เลยถามว่า แล้วไม้นี่เค้าจะใช้ได้อย่างปลอดภัยมั้ย โอลิแวนเดอร์บอกว่า อาจจะ เพราะถ้าไม้กายสิทธิ์ถูกเอาชนะมาอย่างถูกต้องมันจะรับใช้นายใหม่ได้เต็มที่ รอนก็เอาไม้ของเพตติกรูให้โอลิแวนเดอร์ดู และถามว่าเขาควรจะใช้ไม้อันนี้รึเปล่า โอลิแวนเดอร์บอกว่าได้เ ถ้าเธอเป็นคนเอาชนะมา แฮรี่เลยถามว่า กฏนี้ใช้ได้กับไม้ทุกอันรึเปล่า โอลิแวนเดอร์บอกว่า น่าจะ และบอกว่าศาสตร์ของไม้กายสิทธิ์มันซับซ้อนมาก แฮรี่เลยถามต่อว่า แล้วจำเป็นจะต้องฆ่าเจ้าของคนเดิมรึเปล่า เพื่อที่จะชิงไม้มา โอลิแวนเดอร์ปฏิเสธว่าคงจะไม้ต้องถึงขนาดฆ่าก็ได้ แฮรี่เลยยกเรื่องเล่าของไม้ที่ส่งต่อกันระหว่างฆาตกร ซึ่งโวลเดอมอร์ตกำลังต้องการไม้นี้อยู่...โอลิแวนเดอร์ตกใจมากว่าแฮรี่รู้เรื่องนี้ได้ยังไง แฮรี่ยังบอกอีกว่า เขารู้ว่า โอลิแวนเดอร์บอกให้โวลเดอมอร์ตใช้ไม้ของคนอื่นแทน เพราะไม้ของทั้งสองเป็นพี่น้องกัน ซึ่งทำให้โอลิแวนเดอร์ยิ่งซีดเข้าไปใหญ่ แต่แฮรี่ไม่ได้ว่าอะไร แล้วเล่าเรื่องที่ ไม้ของแฮรี่เสกคาถาโดยที่แฮรี่ไม่ได้ร่าย.. โอลิแวนเดอร์บอกว่าประหลาดมากและไม่เคยได้ยินเรื่องแบบนี้มาก่อน แฮรี่เลยวกกลับมาที่เรื่องไม้ elder wand หรือ Deathstick หรือ Wand of Destiny (นึกว่า Pick of Destiny ซะอีกแหน่ะ) โอลิแวนเดอร์เลยว่าว่า โวลเดอมอร์ตนั้นพอใจกับไม้ของตัวเองมาก จนกระทั่งพบว่า ระหว่างไม้ของแฮรี่กับตัวเองมันเชื่อมกัน เลยต้องการหาไม้ใหม่ แฮรี่เลยบอกว่า อีกไม่นานเดี๋ยวโวลเดอมอร์ตก็จะรู้ว่าไม้ของเขาหักไปแล้ว แต่เฮอร์ไม่เห็นด้วย และบอกว่าเขายังไม่รู้ และจะหลอกให้เป็นแบบนั้น แต่แฮรี่บอกว่า ร่องรอยที่บ้าน Malfoy จะทำให้ โวลเดอมอร์ตรู้ว่า เขาใช้ไม้อันอื่นที่ไม่ใช่ของตัวเอง โอลิแวนเดอร์บอกว่า โวลเดอมอร์ตไม่ได้แค่ต้องการไม้ elder wand เพื่อเอาชนะแฮรี่ แต่ยังต้องการจะไร้เทียมทาน (เป็นหนังจีนไปแล้ว) แฮรี่เลยทักว่า โอลิแวนเดอร์ใช่มั้ยที่บอกโวลเดอมอรืต ว่าไม้อยู่กับ Gregorovicth ซึ่งก็ทำให้ โอลิแวนเดอร์ตกใจ (เป็นรอบที่เท่าไหร่แล้ว) ว่าทำไมแฮรี่รู้ (เยอะนัก) โอลแวนเดอร์บอกว่าเขาลือกันว่าอย่างนั้น และบางทีตัวGregorovitch เองที่เป็นคนปล่อยข่าวนี้ แฮรี่เลยถามต่อว่า โอลิแวนเดอร์ รู้อะไรเกี่ยวกับ deathly Hallows บ้าง ซึ่ง โอลิแวนเดอร์เองก็บอกว่าไม่รู้เลยว่าคืออะไร ...การซักถามโอลิแวนเดอร์จบแค่นี้ ทั้งสามคนออกมาที่หลุมศพของDobby ...ซึ่งแฮรี่เริ่มอธิบายทฤษฎีที่เขาคิดให้ รอนกับเฮอร์ไมโอนี่ฟัง แฮรี่บอกว่า ไม้เคยอยู่กับ Gregorovitch แต่ก็ถูก Grinderwald ขโมยไป ....ซึ่งในขณะนี้แฮรี่ก็สัมผัสได้ว่า โวลเดอมอร์ตมาอยู่ที่ประตูของฮอกวอร์ตแล้ว...!!! แฮรี่เล่าต่อว่า ...เมื่อGrinder wald ทรงพลังมากขึ้น ก็โดนปราบ..โดยดัมเบิลดอร์.....ซึ่งก็แปลว่าไม้ elder wand อยู่กับดัมเบิลดอร์นี่เอง...และตอนนี้ไม้ก็อยู่ที่ฮอกวอร์ตนี่แหล่ะ.... รอนเลยบอกว่า งั้นก็รีบไปเอาเลยสิ ...แต่แฮรี่บอกว่า สายไปแล้ว...ป่านนี้ โวลเดอมอร์ตน่าจะไปถึงไม้ก่อนแล้ว “ไม้ที่ไม่มีทางแพ้นะ แฮรี่” รอนครวญคราง “ฉันไม่ควรจะไปเอาไม้.....ฉันควรจะไปเอาHorcrux… ฉากตัดมาที่ โวลเดอมอร์ตกับ กับ สเนป โวลเดอมอร์ตสั่งในสเนปไปรอที่ปราสาท ส่วนตัวเองก็ใช้คาถากำลังกาย แล้วบุกหลุมศพของดัมเบิลดอร์ ศพของดัมเบิลดอร์ยังถูกเก็บไว้อย่างดี และนั่นเอง ที่หน้าอกของศพ สิ่งที่มือทั้งสองประสานไว้....elder wand โวลเดอมอร์ตชิงไม้มาได้แล้ว..... บทที่ 25 shell cottage ยังอยู่ที่กระท่อมเปลือก ห อ ย ริมหาดของบิลกับเฟลอร์ แฮร์รี่ซึ่งบอกว่าจะไม่ตามไปชิง Elder Wand กลับรู้สึกสับสนและลังเล นี่เป็นครั้งแรกที่แฮร์รี่เลือกที่จะไม่ลงมือทำอะไรเลย ยิ่งคิดถึงหลุม ศ พ ดัมเบิลดอร์ยิ่งทำให้แฮร์รี่รู้สึกแย่ เหมือนกับว่าดัมเบิลดอร์ทิ้งความนัยอะไรบางอย่างเอาไว้ให้แฮร์รี่ค้นหาคำตอบ แล้ว แต่ตัวเขาเองมองข้าม มั น ไป ทำให้เขาต้องคอยเหลียวหลังหันกลับมามองอย่างลังเลตลอดเวลาว่าทางที่เลือกเดิ นมานี้ถูกต้องแล้วหรือ แล้วแฮร์รี่ก็ พ า ล นึกโกรธดัมเบิลดอร์ที่ไม่อธิบายอะไรๆ ให้ชัดเจนไว้ก่อน ต า ย บ้างเลย รอนพยายามเปิดประเด็นว่าดัมเบิลดอร์ ต า ย ไปแล้วจริงๆ รึเปล่าใหม่ ซึ่งเฮอร์ไมโอนี่ตั้งท่าค้านตกเต็มที่ พอดีเฟลอร์เดินเข้ามาขัดจังหวะ บอกแฮร์รี่ว่ากริปฮุคอยากคุยกับแฮร์รี่เป็นการส่วนตัวในห้อง ด้วยท่าทีที่ไม่ปิดบังเลยว่าเธอไม่ชอบพวกกอบลินอย่างยิ่ง ทั้ง สามคุยกันว่าจะเชื่อเรื่องที่กริปฮุคบอกว่าดาบนั้นเป็นของข โ มย มาได้รึเปล่า เฮอร์ไมโอนี่เองก็ไม่แน่ใจ เพราะประวัติศาสตร์ของพ่อมดย่อมไม่เขียนเรื่องแย่ๆ ของพ่อมดไว้ เธอเสริมว่าพวกกอบลินเองก็มีเหตุผลที่ดีที่จะ เ ก ลี ย ด ชิ ง ชั ง พวกพ่อมด เพราะในอดีตพวกพ่อมด ก ด ขี่ ข่ ม เ ห ง กอบลินไว้เยอะมาก ร อนเสนอแผนว่าจะเอาดาบปลอมให้กริปฮุคไป ยิ่งทำให้เฮอร์ไมโอนี่ได้ที ไ ล่ ทันทีว่าพวกพ่อมดก็คิดกันแบบนี้แหละพวกกอบลินถึงไม่ชอบหน้าเอา เงียบไปอีกพักโดยไม่มีใครคิดออกว่าจะเสนอให้อะไรที่มีค่าพอๆ กับดาบที่พวกเขาจำเป็นต้องใช้ในการทำลายฮอร์ครักซ์เหมือนกันดี ในท ี่สุดแฮร์รี่ก็ตกลงใจว่าเขาจะยอมให้ดาบกริฟฟินดอร์ไปหลังจากที่กริปฮุคช่วยใ ห้พวกเขาบุกเข้าไปได้สำเร็จแล้ว แต่เขาจะไม่บอกกริปฮุคว่าจะให้ดาบ "เมื่อไหร่" เฮอร์ไมโอนี่ไม่ชอบไอเดียนี้ แต่ไม่มีใครคิดอะไรที่ดีกว่านี้ได้ ในที่สุดแฮร์รี่กับกริปฮุคก็จับมือทำข้อตกลงกันเรียบร้อย ท่ามกลางความชื่นมื่นของกริปฮุคแต่เพียงผู้เดียว จากนั้นกริปฮุคกับท ั้งสามก็หมกตัวกันวางแผนบุก ป ล้ น กริงก็อตส์ชนิดที่แทบไม่โผล่หัวออกมาดูโลกนอกจากเวลาอาหาร กริปฮุคออกตัวว่าเคยเข้าไปในห้องเซฟของตระกูลเลสแตรงค์เพียงแค่ครั้งเดียวเ ท่านั้นตอนที่เอาดาบปลอมไปเก็บไว้ ห้องนั้นเป็นหนึ่งในห้องเซฟที่เก่าแก่ที่สุด อยู่ลึกที่สุด ได้รับการคุ้มกันอย่างดีที่สุด เหมือนอย่างห้องของตระกูลพ่อมดเก่าแก่ทั้งหลาย ซึ่งนี่เป็นอุปสรรคต่อแผนบุกของพวกเขา และอุปสรรคอีกอย่างคือน้ำยาสรรพรสในสต็อกเหลือเพียงแค่สำหรับ 1 คนเท่านั้น เฮอร์ไมโอนี่แสดงความกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่หลังจากพิจารณาแผนที่ทางเดินที่กริปฮุควาดให้ดูแล้วแฮร์รี่ก็บอกว่ามีเท่ านั้นก็เพียงพอ แฮร์รี่ รอนและเฮอร์ไมโอนี่เริ่มรู้สึกไม่ชอบนิสัย ห ย า บ ค า ย ไร้ความปรานีต่อผู้อื่น (โดยเฉพาะชนเผ่าที่ด้อยกว่า) ของกริปฮุค แ ต่ยังไงก็ต้องทนจนกว่าแผนจะสำเร็จ และจากความที่เฟลอร์ก็ไม่ชอบ ประจวบกับเรื่องต่างๆ มากมาย วันหนึ่งแฮร์รี่จึงเอ่ยขอโทษกับเฟลอร์ที่ทำให้ต้องลำบากขณะที่ทั้งสองอยู่ใ นครัว เฟลอร์บอกไม่เป็นไร เพราะยังไงแฮร์รี่ก็คือคนที่ช่วยชีวิตน้องสาวของเธอไว้ แล้วเปลี่ยนหัวเรื่องคุยว่าเดี๋ยวเย็นนี้คุณโอลิแวนเดอร์ก็จะไปอยู่บ้านเมอเ รียลแทนแล้ว อะไรๆ ก็คงจะยุ่งน้อยลง แฮร์รี่บอกว่าอีกไม่นานพวกเขาก็จะไปด้วยเหมือนกัน เฟลอร์กับบิลจะได้ไม่ลำบาก เฟลอร์ได้ยินก็บอกแฮร์รี่ว่าห้ามไปไหนนะ อยู่ที่นี่แหละจะได้ปลอดภัย เป็นคำพูดที่แฮร์รี่รู้สึกว่าเหมือนแม่ของรอนจริงๆ พอดีจินนี่กับดีนเปียกฝนโชกกลับเข้าบ้านมาพอดี แฮร์รี่จึงฉวยโอกาสหลบลี้หนีหายไปก่อนจะโดนเฟลอร์ซักถามอะไรอีก คืน นั้นบิลพาคุณโอลิแวนเดอร์ไปส่งบ้านเมอเรียล เฟลอร์จึงฝากเทียร่าประดับเพชรกับมูนสโตนที่ยืมมาใช้ในงานแต่งไปคืนป้าเมอเ รียลของครอบครัววีสลีย์ด้วย กริปฮุคเห็นเทียร่านั้นก็ทักขึ้นว่าเป็นของที่ทำโดยกอบลินสินะ บิลตัดบทว่าและเป็นของที่พ่อมดจ่ายเงินให้แล้ว จากนั้นบิลกับโอลิแวนเดอร์ก็ฝ่าลมแรงออกจากบ้านไป คนอื่นๆ ก็ตั้งโต๊ะกินมื้อเย็นกัน จนบิลกลับมา และบอกว่าทุกคนที่นั่นฝากความคิดถึงมาให้ด้วย ขณะที่ทุกคนกำลังคุยกั นอยู่บนโต๊ะอาหาร ก็ได้ยินเสียงเคาะที่ประตู ปรากฏว่าเป็นลูปินโผล่เข้ามาบอกว่าท็องส์คลอดลูกแล้ว เป็นเด็กผู้ชายชื่อเท็ด ได้ยินอย่างนั้นทุกคนจึงเข้ามาแสดงความยินดีกับลูปิน (ยกเว้นกริปฮุค) ลูปินบอกว่าตนกับท็องส์เห็นพ้องต้องกันว่าจะให้แฮร์รี่เป็นพ่อทูนหัวของลูก ชาย แฮร์รี่ได้ยินอย่างนั้นก็รับปากไปอย่างงงๆ เฟลอร์ถามว่าเท็ดหน้าตาเหมือนใคร ลูปินบอกว่าคงเหมือนท็องส์ เพราะสีผมของเท็ดเปลี่ยนได้ด้วย หลังจากดื่มไวน์ฉลองไปหลายแก้วลูป ินก็ขอตัวกลับ แต่คนที่เหลือในบ้านยังคงฉลองข่าวดีนี้อย่างรื่นเริงกันต่อไป บิลกับแฮร์รี่ช่วยกันเก็บโต๊ะ ขณะที่อยู่ในครัว บิลเปิดประเด็นเรื่องที่แฮร์รี่กำลังวางแผนอะไรอยู่กับกริปฮุค บิลเอ่ยขึ้นว่าตนทำงานกับกอบลินมานานจนรู้จักพวกกอบลิน มีเพื่อนเป็นกอบลิน และเตือนแฮร์รี่ว่าจะต้องระมัดระวังเป็นพิเศษในการทำสัญญาตกลงอะไรกับกอบลิน โดยเฉพาะในเรื่องที่เกี่ยวกับสมบัติ เพราะวิธีคิดของพวกกอบลินในเรื่องของความเป็นเจ้าของนั้นแตกต่างจากของพวกพ่ อมด โดยที่พวกกอบลินถือว่า สิ่งของต่างๆ ถือเป็นสิทธิ์ของคนที่สร้างขึ้น วัตถุต่างๆ ที่กอบลินสร้าง ในทัศนะของกอบลิน จึงถือว่าเป็นของกอบลินเสมอ แม้พวกพ่อมดจะจ่ายเงินให้ กอบลินก็จะถือว่านั่นคือการให้เช่าเฉยๆ เมื่อพ่อมดที่เป็นเจ้าของตายสิ่งของก็ควรจะกลับมาเป็นของกอบลินผู้สร้าง ไม่ใช่เป็นของตกทอดเปลี่ยนมือกันไประหว่างพวกพ่อมด ดังนั้นการยกของที่กอบลินสร้างตกทอดให้พ่อมดคนอื่นจึงเป็นการขโมยในสายตาขอ งกอบลิน ในเมื่อแนวคิดเรื่องสิทธิ์แตกต่างจากของพวกพ่อมดเช่นนี้จึงทำให้เกิดความไม ่เข้าใจกันและไม่พอใจขึ้น พวกกอบลินจึงมีความเชื่อกันว่าพวกพ่อมดนั้นไว้ใจไม่ได้ในเรื่องเงินๆ ทองๆบิลกล่าวสรุปว่าจะทำสัญญาอะไรกับกอบลินก็ให้ระวัง แฮร์รี่ก็รับปากว่าจะจำใส่ใจไว้ บทที่ 26 "กริงกอทท์" ห ลังจากใช้เวลาวางแผนนานหลายวัน ในที่สุดพวกแฮรี่ก็พร้อมบุกกริงกอทท์ คืนก่อนออกเดินทางแฮรี่เอา wand ของเบราทริกซ์ให้เฮอไมโอนี่ ใช้แทนอันของเธอที่หายไป เฮอไมโอนี่ไม่ชอบใจนักเพราะ wand อันนี้เคยใช้ทำเรื่องเลวร้ายมาก และมันยังไม่ยอมรับเธอเต็มที่ เฮอไมโอนี่บ่นที่ลูน่าได้ wand อันใหม่เป็นของขวัญจากโอลิแวนเดอร์ เธอน่าจะได้บ้าง แฮรี่ใช้ wand ของมัลฟอยล์ที่ยึดมาได้ ส่วนรอนใช้ wand ของหางหนอน ตามแผนที่วางไว้ เฮอไมโอนี่จะปลอมเป็นเบราทริกซ์เข้าไปในธนาคารและรอนจะปลอมตัวเป็นนักลงทุนจ ากสแกนดิเนเวียที่เบราทริกซ์ต้องดูแล ส่วนแฮรี่กับกริดฮุกจะซ่อนตัวอยู่ในผู้คลุมล่องหน เมื่อไปถึงตรอกไดแ อกอน เทรเวอร์เข้ามาทักเบราทริกซ์(เฮอไมโอนี่) เขาสงสัยว่าเบราทริกซ์น่าจะยังถูกขังอยู่ในบ้านมัลฟอยล์เพราะโดนทำโทษที่ปล่ อยให้แฮรี่หนีไป เฮอไมโอนี่บอกว่าดาร์กลอร์ดให้อภัยคนที่จงรักภักดีมากกว่าและมีผลงานมากกว่า เทรเวอร์เดินนำทั้งหมดไปที่กริงกอทท์ ที่หน้าธนาคารมีพ่อมด 2 คนในชุดสีทองถือเครื่องมือพิเศษสำหรับใช้ตรวจหาเวทมนต์เข้ามาตรวจเฮอไมโอนี่ กับรอน แฮรี่เสกคาถา Confundo ใส่เครื่องมือให้การตรวจผิดพลาด เมื่อเข้าไปที่ข้างในเฮอไมโอนี่แจ้งความต้องการเข้าไปในห้องนิรภัยของเบราทร ิกซ์ ก๊อบลินขอดูสิ่งแสดงตัว พวกเขาได้รับคำสั่งให้ระวังตัวปลอม เฮอไมโอนี่ส่ง wand ให้ตรวจ กริดฮุกกลัวว่าจะผิดพลาดจึงให้แฮรี่เสกคาถาสะกดใจใส่ก๊อบลินตัวนั้นกับเทรเว อร์จนผ่านเข้าไปด้านในได้ เพื่อป้องกันความผิดพลาด แฮรี่สั่งให้เทรเวอร์ที่โดนคาถาสะกดใจอยู่ไปซ่อนตัวในที่ลับตา จากนั้นสั่งให้ก๊อบลินชื่อโบ-กรอดนำทางไปห้องนิรภัย พวกเขานั่งรถรางลงไปลึกมาก ลึกกว่าห้องนิรภัยของแฮรี่ พวกเขาผ่านไปในน้ำที่ตกลงมา ทันใดนั้น เฮอไมโอนี่กันรอนก็กลับคืนร่างเดิม น้ำตกมีเวทมนต์ป้องกันการคาถาต่างๆอยู่ เป็นด่านพิเศษที่ป้องกันพวกตัวปลอม เฮอไมโอนี่ได้ยินเสียงคนตามมา เธอเสกคาถาเกราะวิเศษขวางไว้หลังน้ำตก กริดฮุกพาพวกแฮรี่ไปที่ห้องนิรภัย มีมังกรตาบอดเฝ้าอยู่หน้าห้องนิรภัย กริดฮุกเอา Clankers ให้มังกรเพื่อให้มันยอมให้ผ่านทาง แฮรี่สั่งให้โบ-กรอดเปิดประตูห้องนิรภัย ในห้องมีของเก็บอยู่มากมาย พวกเขาค้นอย่างรวดเร็ว หลังจากโดนกับดักไปคนละนิดละหน่อย พวกเขาก็หาถ้วยของฮัพเฟิลพัฟเจอวางอยู่สูงสุดของกองสิ่งของ หลังจากพยายามอย่างยากลำบาก ในที่สุดแฮรี่ก็ได้ถ้วยมา แต่กริดฮุกฉกดาบแล้ววิ่งหนีไป ในขณะที่ยามของกริงกอทท์หลายคนมาถึง แฮรี่เสกคาถาปลดโซ่มังกรแล้วพารอนกับเฮอไมโอนี่ขึ้นหลังมังกร มังกรพาทั้งสามคนบินไปตามทางอุโมงจากนั้นก็พ่นไฟแล้วใช้เท้าขุดเพดานถ้ำเพื่ อออกไปด้านนอก ทั้งสามใช้คาถาระเบิดทางช่วยมังกรด้วยจนในที่สุดก็โผล่ขึ้นมาในห้องโถงของกร ิงกอทท์ ทำให้ก๊อบลินและพ่อมดในนั้นวิ่งหนีกันวุ่นวาย จากนั้นมังกรก็พาทั้งสามคนบินหนีไป บทที่ 27 - The Final Hiding Place เจ้ามังกรไม่รู้เลยว่ามีคนอยู่บนหลังมันเพราะมันกำลังยินดีกับอิสรภาพ เมื่อมันบินต่ำ พวกแฮร์รี่จึงรีบกระโดดลงน้ำก่อนที่มังกรจะรู้ว่าพวกเขาเกาะหลังมันมา พวกเขาพักเหนื่อย รักษาแผล เฝ้ามองมังกรกินน้ำอย่างมีความสุขอีกด้าน และคิดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พวกเขาได้ Horcrux มา แต่เสียดาบไป และพวกเขาเพิ่งปล้นธนาคารมาหมาด ๆ ซึ่งทำให้พวกเขาหัวเราะออกมาได้ แล้วแฮร์รี่ก็รู้สึกถึงความโกรธของโวลเดอมอร์ เมื่อรู้ว่าเซฟของเบลลาทริกซ์ถูกปล้น จนฆ่าก๊อบลินที่มาส่งข่าวจนตายเรียบ โวลเดอมอร์เริ่มสงสัยว่าพวกแฮร์รี่จะรู้เรื่อง Horcruxes แล้ว จริงอยู่ว่าเขาไม่รู้ว่าไดอารี่ถูกทำลาย แต่เขาคิดว่าตอนนั้นเขายังไม่มีร่าง ทำให้ตอนนี้เขายิ่งห่วงความปลอดภัยของ Horcruxes อื่น ๆ เขาซ่อนแหวนไว้ในบ้านเก่าของ Gaunt ซึ่งไม่น่าจะมีใครรู้ว่าเขาเป็นญาติกับ Gaunt แหวนน่าจะปลอดภัย ส่วนล็อคเก็ตในถ้ำทะเลสาบก็ไม่น่ามีใครจะสืบรู้ ส่วน Horcrux ที่ฮอกวอกต์ก็น่าจะปลอดภัย ส่วนนากินี่ เขาจะเรียกมันมาอยู่ข้าง ๆ แฮร์รี่ลืมตาและบอกเพื่อน ๆ ว่าโวลเดอมอร์รู้แล้วว่าพวกเขากำลังตามล่า Horcruxes อยู่ และ Horcrux อันที่เหลืออยู่ที่โรงเรียน พวกเขาซ่อนตัวใต้ผ้าคลุมและหายตัวไปที่ Hogsmeade Note: - แหวนถูกดัมเบิลดอร์ทำลายไปแล้วในเล่มหก - โวลเดอมอร์เพิ่มรู้ว่าพวกแฮร์รี่รู้เรื่อง Horcruxes ... ในเล่มหก แฮร์รี่กับดัมเบิลดอร์สืบหา Horcruxes และประวัติของโวลเดอมอร์จากความทรงจำของคนหลาย ๆ คนผ่านเพนซีป บทที่ 28 - The Missing Mirror พวกเขามายัง Hogsmeade และทันทีที่เขามาถึง อากาศแถวนั้นก็แปลกไป ผู้เสพความตายวิ่งกรูออกมาจากร้านไม้กวาดสามอัน ราวกับรู้ว่าพวกเขามาถึงแล้วทั้ง ๆ ที่อยู่ใต้ผ้าคลุมล่องหน พวกมันพยายามให้คาถาเรียกผ้าคลุมเพราะรู้ว่าพวกเขาต้องหายตัวอยู่แน่ ๆ แต่คาถาใช้ไม่ได้ผลกับผ้าคลุม พวกแฮร์รี่พยายามจะหายตัวหนี แต่ก็ไม่ได้ผล พวกผู้เสพความตายจึงเรียก Dementors มา แฮร์รี่เลยเสกผู้พิทักษ์ไล่ Dementors ไป ตามแผนของพวกมัน ซึ่งก็รีบวิ่งลงมายังแถว ๆ ที่แฮร์รี่เพิ่งเสกคาถา แต่ทันใดนั้น ก็มีเสียงหนึ่งเรียกพวกแฮร์รี่ให้เข้าไปในประตู ๆ หนึ่ง และไล่ขึ้นไปข้างบน แฮร์รี่เพิ่งรู้ว่านี่คือโรงแรม Hog's Head พวกเขารีบขึ้นไปข้างบน และเฝ้ามองจากหน้าต่างชั้นบน เห็นเจ้าของโรงแรมกำลังเถียงกับพวกผู้เสพความตายอยู่ แฮร์รี่ถึงรู้ว่าตอนนี้ที่นี่มีเคอร์ฟิวอยู่ เจ้าของโรงแรมบอกว่าผู้พิทักษ์ที่พวกนั้นเห็นคือผู้พิทักษ์ในร่างแพะของเขาเอง เจ้าของโรงแรมนั้นคือ Aberforth น้องชายของดัมเบิลดอร์ แฮร์รี่รู้ว่า Aberforth เป็นคนส่งด๊อบบี้ไปช่วยพวกเขา และเห็นกระจกอีกส่วนของซีเรียสใต้รูปภาพหญิงสาว แฮร์รี่บอกว่าพวกเขาต้องการเข้าไปในฮอกวอกต์ แต่ Aberforth บอกให้เลิกคิดและให้พวกแฮร์รี่ไปไกล ๆ จากที่นี่ เขาเล่าเรื่องของดัมเบิลดอร์ในสมัยก่อน ชี้ให้ดูรูปภาพหญิงสาวซึ่งก็คือ Ariana น้องสาวของพวกเขา Aberforth เล่าว่าเมื่อ Ariana อายุหกขวบ เธอยังเด็กและควบคุมพลังไม่ได้ เธอถูกเด็กหนุ่มมักเกิ้ลสามคนทำร้าย เพราะเขาเคยเห็นเธอใช้เวทมนต์ แล้วเธอก็ควบคุมมันไม่ได้อีก เธอเลยไม่ใช้พลังและมันทำให้เธอคลั่ง พลังระเบิดออกมาเมื่อเธอไม่สามารถควบคุมได้ พ่อของพวกเขาไปจัดการเด็กหนุ่มสามคนนั้น จนถูกจับและเอาไปขังที่อัซคาบัน พ่อเขาไม่เคยพูดเลยว่าเพราะอะไร เขาไม่อยากให้ทางกระทรวงรู้ ไม่งั้นลูกสาวจะต้องถูกจับขังใน St. Mango และถูกประกาศว่าเป็นบุคคลอันตรายต่อความมั่นคง เพราะเธอควบคุมพลังไม่ได้ แม่และ Aberforth คอยดูแลเธอ โดนเฉพาะ Aberforth ที่เธอไว้ใจและรักมากที่สุด แต่ดัมเบิลดอร์ส่วนมากจะเก็บตัวในห้อง อ่านหนังสือและเขียนจดหมายหาคนที่มีชื่อเสียงในสมัยนั้น เรื่องเกิดขึ้นเมื่อ Aberforth ไม่อยู่ แล้วเธอก็คุมพลังไม่ได้ แม่ก็เอาไม่อยู่จน ดัมเบิลดอร์เลยต้องหยุดการเดินทางท่องเที่ยวกับ Elphias Doge มาดูแลบ้านในฐานะหัวหน้าครอบครัว Aberforth ต้องการเลิกเรียน กลับมาดูแลน้อง แต่ดัมเบิลดอร์ไม่ยอม เขาดูแลเธอไม่ให้ระเบิดบ้านพัง จนกระทั่ง Grindelwald เข้ามาพูดคุยกับดัมเบิลดอร์ในหลาย ๆ เรื่อง ทั้งระเบียบของสังคมพ่อมด เรื่อง Hallows และทุกสิ่งที่พวกเขาสนใจ ท้ายที่สุด พวกเขาทั้งสามทะเลาะกันเรื่องของ Ariana ... Grindelwald ใช้คำสาปกรีดแทงใส่ Aberforth และดัมเบิลดอร์พยายามหยุด และพวกเขาก็สู้กัน ซึ่งทำให้ Ariana ทนไม่ได้ จนระเบิดพลังออกมา Aberforth บอกว่าเธอเพียงต้องการจะช่วยแต่เธอเพียงไม่รู้ว่าเธอกำลังอะไรอยู่ เขาไม่แน่ใจว่าใครเป็นคนทำ รู้อีกทีเธอก็ตายแล้ว Grindelwald หนีไป ดัมเบิลดอร์เป็นอิสระตลอดกาล แต่แฮร์รี่แย้งว่าดัมเบิลดอร์ไม่เคยมีอิสระเลย และเล่าว่าถึงคำพูดตอนที่ดัมเบิลดอร์ดื่มน้ำยาในคืนที่เขาตาย ว่าดัมเบิลดอร์คงยังระลึกถึงตอนที่เขาเห็น Grindelwald กำลังทำร้ายน้อง ๆ อยู่ และแฮร์รี่ก็บอกว่าเขาจะไม่หยุด จนกว่าจะล้มโวลเดอมอร์ได้ ... Aberforth เดินไปยังรูปภาพ Ariana บอกว่าเธอรู้ว่าต้องทำยังไง .. หญิงสาวในภาพหันหลังและเดินจากไป ซึ่งไม่เหมือนภาพอื่น ๆ เวลาเดินทางไปยังกรอบรูปอันอื่น .. มันเหมือนเป็นอุโมงค์ยาวมืด ๆ .. Aberforth บอกว่าทุกทางมียามเฝ้าแล้ว มีเพียงทางนี้ทางเดียว สักพัก Ariana ก็กลับมา พร้อมกับพาเนวิลล์มาด้วย รูปภาพเปิดออก และเนวิลล์ก็กระโดดออกมาอย่างดีใจสุดขีดที่ได้พบพวกแฮร์รี่อีกครั้ง บทที่ 29 - The Lost Diadem ระหว่างที่เนวิลล์พาพวกเขาเดินผ่านอุโมงค์หลังภาพ เขาก็เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ฟังว่าที๋โรงเรียนเปลี่ยนไปมากยิ่งกว่าตอนที่อัมบริดจ์มาคุมเสียอีก Amycus Carrows สอนวิชาป้องกันตัวจากศาสตร์มืด ซึ่งกลายเป็นสอนวิชาการใช้ศาสตร์มืดจริง ๆ โดยให้ฝึกคาถากรีดแทง เอาไว้ทำโทษคนอื่น ส่วน Alecto Carrows สอนมักเกิ้ลศึกษาก็เอาแต่ว่ามักเกิ้ลเป็นดั่งสัตว์โง่เง่าและสกปรก ซึ่งเนวิลล์ก็ถูกพวกนั้นทำโทษบ่อย ๆ จนมีแผลเต็มไปหมด มีนักเรียนบางส่วนต่อต้านเขา ซึ่งเมื่อจินนี่ไม่ได้กลับมาหลังคริสมาส เนวิลล์ก็เหมือนกลายเป็นหัวหน้ากลุ่มไป และถูกพวกพี่น้อง Carrows จับตามองตลอด จนไม่นานมานี้ พวกนั้นถึงไปลงที่คุณยายของเนวิลล์ แต่พวกนั้นคาดไม่ถึงว่าแม่มดแก่ ๆ จะมีพิษสงอะไรมากมาย แต่คุณยายของเนวิลล์เล่นงานผู้เสพความตายคนหนึ่งเข้า St. Mungo จนป่านนี้ยังไม่หายเจ็บเลย คุณยายกำลังหลบหนีอยู่ และส่งจดหมายมาหาเนวิลล์ชื่นชมเขาว่าสมเป็นลูกของพ่อแม่ และเธอภูมิใจในตัวเนวิลล์มาก เนวิลล์พาแฮร์รี่ทะลุไปยังอีกด้านของรูปภาพ นั่นคือ Room of Requirements ที่มีเพื่อน ๆ รออยู่หลายคน ซึ่งลูน่า ดีน จินนี่ เฟร็ดจอร์จ ลี และโชตามมาสมทบอีก พวกเขาทุกคนต้องการจะช่วยแฮร์รี่ แต่แฮร์รี่ยังคงไม่แน่ใจและยังไม่ยอมบอกว่าเขากลับมาที่นี่เพื่อหา Horcrux รอนกับเฮอร์ไมโอนี่เห็นด้วยที่จะให้เพื่อน ๆ ช่วย แม้จะไม่ได้บอกคนอื่นว่าจุดประสงค์ที่แท้จริงคืออะไร แฮร์รี่จึงบอกเพื่อน ๆ ว่า เขามาที่นี่เพื่อหาของสิ่งหนึ่งที่จะช่วยทำลายโวลเดอมอร์ และอาจอยู่ในส่วนที่พักของเรเวนคลอ มันคืออะไรสักอย่างที่มีนกอินทรีของเรเวนคลอ ซึ่งลูน่าก็ให้ความเห็นว่า มันคือ Lost Diadem ของเรเวนคลอ .. โช แชงบอกว่ามันสูญหายไปนานแล้ว แต่ถ้าเขาอยากเห็นว่า Diadem เป็นยังไง เธอจะพาไปดูที่รูปปั้นในห้องนั่งเล่นของเรเวนคลอ ... จินนี่เสนอให้ลูน่าเป็นคนพาแฮร์รี่ไปแทน ใต้ผ้าคลุมล่องหน แฮร์รี่เปิดแผนที่และขึ้นไปยังห้องนั่งเล่นเรเวนคลอ และเห็นรูปปั้นกับ Diadem ที่เป็นรัดเกล้าหินอ่อน มีคำจารึกเล็ก ๆ สลักอยู่ แฮร์รี่เลยออกจากผ้าคลุม และปีนขึ้นไปอ่าน ได้ความว่า "Wit beyoud measure is man's greatest treasure." ทันใดนั้น เขาได้ยินเสียง จนตกใจหล่นลงมากับพื้น และพบ Alecto Carrows ยืนค้ำหัวอยู่ และกดนิ้วไปยังรอยสักมารบนแขน บทที่ 30 - The Sacking of Severus Snape ขณะที่ Alecto กดนิ้วที่รอยสัก ลูน่าก็เสกคาถาใส่จน Alecto สลบ แฮร์รี่เรียกลูน่ามาซ่อนใต้ผ้าคลุมทันก่อนที่เด็ก ๆ บ้านเรเวนคลอจะลงมา Amycus กับมักกอนนากัลเข้ามาในห้องนั่งเล่น ซึ่ง Amycus โกรธมากที่เห็นน้องสาวถูกสาปและขู่ว่าจะใช้คำสาปกรีดแทงให้เด็ก ๆ บอกว่าใครเป็นคนทำ เขาหวั่นว่าโวลเดอมอร์จะโกรธที่ถูกเรียกมา และจับแฮร์รี่ไม่ได้ พวกเขาจะถูกลงโทษหนัก แต่เขาจะป้ายความผิดให้เด็ก ๆ และทำโทษเด็ก ๆ แทน มักกอนนากัลบอกว่าเธอจะไม่ยอมให้เขาทำร้ายเด็ก ๆ อีก Amycus บอกว่าเวลาของมักกอนนากัลหมดแล้ว และพวกเขาก็ควบคุมที่นี่ จากนั้นก็ถ่มน้ำลายใส่ ทำให้แฮร์รี่โกรธมาก จนใช้คำสาปกรีดแทงใส่ Amycus จนกระเด็นไปกระแทกกำแพงสลบ แล้วแฮร์รี่ก็เข้าใจว่าคำสาปพวกนี้ เขาต้องหมายความเช่นนั้นจริง ๆ มักกอนนากัลตกใจมากที่เห็นแฮร์รี่ที่นี่ แฮร์รี่บอกว่าเขาต้องหา Diadem ของเรเวนคลอ เขาต้องทำตามคำสั่งของดัมเบิลดอร์และจะไม่หนีออกไปจากที่นี่ โวลเดอมอร์กำลังจะมา มักกอนนากัลเข้าใจสถานการณ์ เธอจะปกป้องโรงเรียน และให้แฮร์รี่ซ่อนตัวในผ้าคลุม พวกเขาพบสเนปที่ถูกเรียกออกมาเพราะ Alecto ส่งข่าวผ่านรอยสักว่าพบแฮร์รี่แล้ว และคาดคั้นมักกอนนากัลว่าพบแฮร์รี่แล้วใช่ไหม พวกเขาสู้กัน อาจารย์คนอื่นออกมาช่วยมักกอลนากัล ท้ายที่สุด สเนปหลบหนีไป มักกอลนากัลแจ้งข่าวเรื่องโวลเดอมอร์กำลังจะมา เพื่อนอาจารย์ตกลงจะปกป้องโรงเรียน แฮร์รี่ถามฟวิตวิกถึง Diadem ของเรเวนคลอ แต่เขาบอกว่ามันสูญหายไปนานแล้ว ระหว่างที่อาจารย์ประจำบ้านเรียกนักเรียนไปที่ห้องโถง แฮร์รี่กลับไปยัง Room of Requirement พบว่าขณะนี้มีคนอื่น ๆ มาชุมนุมกันคับคั่ง อาเธอร์ มอลลี่ คนในภาคีและเพื่อน ๆ แม้แต่เพอร์ซี่ จินนี่อยากจะสู้ด้วยแต่มอลลี่ไม่ยอม เพราะเธออายุต่ำกว่าเกณฑ์ พวกเขาลงมารวมที่ห้องโถง แฮร์รี่ไม่เห็นรอนกับเฮอร์ไมโอนี่ ซึ่งจินนี่บอกว่าพวกเขาลงไปที่ห้องน้ำ บทที่ 31 - The Battle of Hogwarts ที่ห้องโถง มักกอนนากัลบอกทุกคนเรื่องเหตุการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้น และยอมให้เด็ก ๆ ที่สมัครใจอยู่ช่วยสู้ด้วย แต่คนที่อายุไม่ถึง ให้หนีไปช่องทางทะลุไปที่ Hogsmeade ระหว่างนั้นเสียงของโวลเดอมอร์ก็ดังขึ้น บอกว่าให้ส่งแฮร์รี่มาให้เขาภายในเที่ยงคืน แฮร์รี่ครุ่นคิดถึง Diadem ว่ามันจะอยู่ที่ไหนได้บ้าง จากข่าวของนิคหัวเกือบขาด เขาไปหา The Grey Lady ผีประจำบ้านเรเวนคลอ เธอคือลูกสาวของเรเวนคลอ แฮร์รี่ยืนยันว่าเขาไม่ต้องการใส่มันหรือครอบครองมัน แต่เพียงต้องใช้มันล้มล้างโวลเดอมอร์ เธอเล่าว่าเธอเป็นคนขโมย Diadem ของแม่และหนีไป จากนั้นแม่ของเธอก็ป่วย จึงส่งชายที่เคยปรารถนาเธอมาตาม แต่เธอไม่ยอมกลับ เขาจึงโกรธมากและฆ่าเธอ เมื่อเขารู้สึกตัว จึงฆ่าตัวตายตาม เขาคนนั้นคือบารอนเลือด ผีประจำบ้าน สลิธีริน Diadem ถูกซ่อนไว้ในต้นไม้ที่อัลเบเนีย และเธอเคยเล่าเรื่องนี้ให้ริดเดิ้ลฟัง แฮร์รี่ไม่คิดว่าโวลเดอมอร์จะซ่อน Diadem ไว้ในป่าอัลเบเนีย จากนั้นเขาก็คิดออกว่าริดเดิ้ลคงซ่อน Diadem ไว้ในปราสาทในวันที่เขากลับมาขอทำงานที่โรงเรียน และเขาต้องซ่อนมันระหว่างทางไปยังไปยังห้องทำงานดัมเบิลดอร์แน่ ๆ ระหว่างทาง แฮร์รี่พบเพื่อน ๆ ที่จุดต่าง ๆ กำลังป้องกันปราสาท และพบรอนกับเฮอร์ไมโอนี่ พวกเขาเพิ่งกลับมาจากห้องแห่งความลับและทำลายถ้วยไปแล้วด้วยเขี้ยวบาซิลิส แฮร์รี่บอกว่าเขารู้แล้วว่า Diadem อยู่ไหน มันถูกซ่อนในที่ ๆ เขาเคยซ่อนหนังสือปรุงยาเล่มเก่า ที่ ๆ เด็ก ๆ นักเรียนซ่อนของไว้ โดยที่อาจารย์ แม้แต่ดัมเบิลดอร์ไม่รู้ พวกเขากลับไปที่ Room of Requirement ขอให้จินนี่ออกมาก่อนเพราะเขาต้องใช้ห้องนั้น ก่อนเข้าไป รอนนึกถึงพวกเอลฟ์ประจำบ้าน บอกว่าต้องให้พวกนั้นหนีไป เพราะเขาไม่ควรสั่งให้พวกนั้นออกมาสู้ตายเพื่อพวกเขา ซึ่งทำให้เฮอร์ไมโอนี่ซึ้งใจมากถึงกับกระโดดจูบรอนเลยทีเดียว แฮร์รี่ขึ้นไปหน้าห้อง บอกว่าเขาต้องการสถานที่ ๆ ทุกสิ่งถูกซ่อนเอาไว้ เดรโก้ แครปและกอยล์อยู่ที่นั้น พวกเขาต่อสู้กัน เดรโก้ตะโกนเตือนไม่ให้ฆ่าแฮร์รี่แต่เพื่อน ๆ ไม่ฟัง แครปใช้คาถาเสกไฟที่กลายเป็นสัตว์ประหลาดอาละวาดจนควบคุมไม่ได้ พวกเขาทั้งหมดจึงหนีตายกันออกมา พวกแฮร์รี่ขึ้นไม้กวาดกำลังจะหนีจากกองเพลิง แฮร์รี่กลับไปข่วย พวกมัลฟอย เฮอร์ไมโอนี่ลากกอยล์ขึ้นไม้กวาด ส่วนเดรโก้กระโดดขึ้นหลังแฮร์รี่ ช่วงที่บินหนี แฮร์รี่คว้า Diadem ไว้ได้ทัน และหนีออกจาห้องนั้นได้พอดี Diadem ถูกทำลายเพราะ Fiendfyre ที่แครปเสกออกมา Horcrux ที่เหลืออยู่ตอนนี้คืองูนากินี่เท่านั้น พวกเขาวิ่งออกมาข้างนอก เห็นเพอร์ซี่กับเฟร็ดกำลังสู้กับ Thicknesse แล้วก็เกิดระเบิดขึ้นจนพวกเขาล้มระเนระนาด เมื่อแฮร์รี่ลุกขึ้น เขาก็เห็นเพอร์ซี่เขย่าร่างไร้วิญณาณของเฟร็ดที่ดวงตานิ่งค้าง แววตามองไม่เห็นสิ่งใดอีก บทที่ 32 - The Elder Wand การต่อสู้ยังคงดำเนินต่อ แมงมุมยักษ์จากป่าต้องห้ามหลุดเข้ามาด้วยแต่แฮร์รี่ให้คาถาซัดพวกมันออกไป รอนกำลังอยากแก้แค้นพวกผู้เสพความตายที่ฆ่าเฟร็ด แต่แฮร์รี่กับเฮอร์ไมโอนี่เตือนว่าพวกเขาต้องตามหาและฆ่างู ที่เป็น Horcrux ให้ได้ เฮอร์ไมโอนี่ให้แฮร์รี่เข้าไปดูในจิตใจของโวลเดอมอร์ และก็รู้ว่าตอนนี้โวลเดอมอร์อยู่ที่เพิงโหยหวน ลูเซียสกำลังขอให้โวลเดอมอร์ยกโทษให้ลูกชาย และขอลงไปสู้เอง แต่โวลเดอมอร์รู้ทันและบอกว่าลูเซียสแค่ต้องการลงไปหาลูก เลยให้ลูเซียสไปพาสเนปมาหาเขาแทน เฮอร์ไมโอนี่โกรธมากที่รู้ว่าโวลเดอมอร์แค่นั่งรออยู่ที่เพิงโหยหวนโดยไม่แม้จะลงมาสู้ แฮร์รี่บอกว่าเขาไม่ต้องลงมาสู้ แค่รอให้แฮร์รี่ไปหาเขาเท่านั้น งูนากินี่ก็อยู่ข้าง ๆ เขาเช่นกัน พวกเขาอยู่ใต้ผ้าคลุมล่องหน พยายามจะออกไปนอกปราสาท พวกเขาเห็นเพื่อน ๆ อาจารย์ และผีในโรงเรียนร่วมต่อสู้กับผู้เสพความตาย ที่หน้าประตู เดรโก้พยายามบอกผู้เสพความตายว่าเขาอยู่ฝ่ายเดียวกัน แต่แฮร์รี่เข้ามาพอดี และช่วยชีวิตเดรโก้ไว้อีกครั้ง ประตูใหญ่เปิดออก แมงมุมยักษ์ทะลักเข้ามา แสงไฟจากคาถาลอยเต็มไปหมด พวกกำลังคิดอยู่ว่าจะออกไปยังไงท่ามกลางความชุลมุนแบบนี้ แฮกริดก็วิ่งลงมา ตะโกนว่าอย่าทำร้ายพวกมัน และถูกกลืนหายไปกับพวกแมงมุมและเวทมนต์มากมาย พวกแมงมุมถอยไปพร้อมกับเหยื่อ พวกแฮร์รี่วิ่งตามออกไป และพบกับพวกยักษ์ รอนห้ามเฮอร์ไมโอนี่ไม่ให้เสกคาถาทำให้พวกนั้นสลบเพราะยักษ์จะล้มทับปราสาทพัง พวกเขาวิ่งหนีจนเกือบจะถึงป่า Dementors ก็รายล้อมพวกเขา แต่ผู้พิทักษ์ของลูน่า เออร์นี่ย์และเซมัสก็จัดการ Dementors ไปได้ พวกเขามาถึงต้นวิลโล่ว์จอมหวด และเข้าไปข้างในใต้ผ้าคลุมล่องหน และแอบดูตรงช่องกำแพง เขาเห็นโวลเดอมอร์และสเนป นากินี่ลอยอยู่ในวงคาถากลางอากาศ สเนปบอกว่าเขาจะไปพาแฮร์รี่มาให้ แต่โวลเดอมอร์ถามเขาว่าทำไมไม้กายสิทธิ์ถึงไม่สามารถแสดงความมหัศจรรย์ออกมาแบบเมื่อก่อน เวทมนต์ที่เขาใช้เป็นเพียงเวทมนต์ธรรมดา ๆ เท่านั้น เขาไม่รู้สึกถึงความแตกต่างระหว่าง Elder Wand กับไม้กายสิทธิ์อันเดิมของเขาเลย สเนปยืนยันว่าจะไปพาแฮร์รี่มาให้โวลเดอมอร์บอกว่าแฮร์รี่จะขึ้นมาหาเขาเอง แต่ตอนนี้ เขาสงสัยเรื่องไม้กายสิทธิ์ว่าทำไมถึงไม้กายสิทธิ์ไม้ยิว กับไม้กายสิทธิ์ของลูเซียส ทั้งสองอันที่เขาเคยใช้ต่างสู้กับแฮร์รี่ไม่ได้ แม้แต่ Elder Wand ก็ดูไม่แตกต่าง ซึ่งสเนปก็ตอบไม่ได้ แต่โวลเดอมอร์บอกว่าเขาเข้าใจแล้วว่าเพราะเขาไม่ใช่ผู้ครอง Elder Wand ที่แท้จริง ไม้กายสิทธิ์จะตกเป็นของผู้ที่ฆ่าเจ้าของคนเดิม แต่เดิม Elder Wand เป็นของดัมเบิลดอร์ คนที่ฆ่าดัมเบิลดอร์ก็คือสเนป กรงขังงูลอยขึ้นมาทับสเนปที่ศีรษะและบ่า โวลเดอมอร์สั่งนากินีให้ไปฆ่าสเนป มันฉกกัดไปที่คอของสเนปที่ยังไม่ทันร่ายมนต์ปลดกรงออกจากตัวเอง โวลเดอมอร์บอกว่าเขาเสียใจ แต่ไม่มีความเสียใจใด ๆ บนใบหน้าและน้ำเสียง เขาเอากรงออกจากร่างสเนป ทิ้งให้สเนปตาย และเดินลอดอุโมงค์ออกไปจากเพิงโหยหวน แฮร์รี่ค่อย ๆ เข้าไปหาสเนปที่กำลังจะตาย สเนปคว้าคอเสื้อคลุมดึงแฮร์รี่เข้ามาใกล้ ๆ และบอกว่าให้นำมันไป ... แฮร์รี่รู้ดีว่ามันคืออะไร สีฟ้าเงินลื่น ๆ ที่ไม่ใช่ทั้งของเหลวหรือก๊าซไหลออกมาจากปาก หูและดวงตา เฮอร์ไมโอนี่ส่งขวดแก้วให้แฮร์รี่เก็บสิ่งสีเงินนี้ สเนปบอกให้แฮร์รี่จ้องมองเขา แล้วเขาก็สิ้นใจ บทที่ 33 - The Prince's Tale แฮร์รี่นั่งข้างร่างไร้ชีวิตของสเนปอยู่พักหนึ่ง ก่อนเขาจะได้ยินเสียงของโวลเดอมอร์ที่ดังก้องโรงเรียนและ Hogsmeade ว่าให้แฮร์รี่ออกมามอบตัวภายในหนึ่งชั่วโมงที่ป่าต้องห้าม ไม่งั้นเขาจะฆ่าทุกคนไม่ให้เหลือแม้แต่ผู้หญิงและเด็ก ในห้องโถงใหญ่ ผู้คนมารวมกัน รักษาคนเจ็บ และนั่งข้าง ๆ คนที่ตาย ร่างของเฟร็ดถูกล้อมด้วยครอบครัววีสลีย์ ลูปินกับท๊องก์ดูเหมือนหลับอย่างสงบ แฮร์รี่กลับไปยังห้องทำงานของดัมเบิลดอร์เงียบ ๆ ไปที่เพนซีป และเทความทรงจำของสเนปลงไป สเนปในวัยเด็ก แอบเฝ้ามองเด็กสาวสองคนหลังพุ่มไม้ ลิลลี่กับเพ็ตทูเนียกำลังเล่นกัน โดยลิลลี่ใช้เวทมนต์กับดอกไม้ เพ็ตทูเนียหวาดกลัวบอกว่าแม่พวกเธอห้ามลิลลี่ทำแบบนี้ สเนปกระโดดออกมา บอกว่ามันคือเวทมนต์และลิลลี่คือแม่มด เพ็ตทูเนียตกใจและกล่าวหาว่าสเนปแอบซุ่มมองพวกเธอมาตลอดและพาลิลลี่ที่หันมองสเนปอยู่จากไป สเนปกับลิลลี่ในวัยเด็กนั่งคุยกันใต้ต้นไม้ สเนปบอกว่ากระทรวงจะเอาผิดคนที่อายุไม่ถึงเกณฑ์แล้วใช้เวทมนต์นอกโรงเรียน สเนปเล่าว่าอีกไม่นานพวกเขาจะได้รับจดหมาย แต่ลิลลี่จะมีคนมาที่บ้าน เพราะเธอเป็นมักเกิ้ล ลิลลี่ถามสเนปว่าเป็นคนที่เกิดจากมักเกิ้ลแตกต่างจากคนอื่นไหม ซึ่งสเนปตอบว่า ไม่มีอะไรแตกต่าง พวกเขาคุยเรื่องครอบครัวของสเนป พลังเวทมนต์ทรงพลังของลิลลี่ และขณะที่สเนปเล่าเรื่อง Dementor ที่ลิลลี่ถาม เขาได้ยินเสียงเพ็ตทูเนียลื่นจากด้านหลัง จนสเนปบอกว่าคราวนี้ใครกันแน่ที่แอบดูแอบฟังอยู่ เพ็ตทูเนียโกรธมาก เลยเยาะเย้นสเนปว่าใส่กระโปรงของแม่อยู่เหรอ กิ่งไม้บนศีรษะของเพ็ตทูเนียหักและหล่นใส่เธอ ลิลลี่โกรธและกล่าวหาว่าสเนปเป็นคนทำแต่เขาปฏิเสธ เธอไม่ยอมฟัง วิ่งตามพี่สาวกลับบ้าน ที่สถานีรถไฟ สเนปเฝ้ามองครอบครัวมาส่งลิลลี่ ลิลลี่ยังคงขอโทษเพ็ตทูเนียอยู่ บอกว่าเมื่อเธอไปถึงโรงเรียน จะพยายามขอร้องอาจารย์ให้รับเพ็ตทูเนียเข้าโรงเรียน ซึ่งทำให้เพ็ตทูเนียโกรธและอับอายมากจนปฏิเสธว่าเธอไม่เคยต้องการไปที่โรงเรียนสำหรับคนประหลาดเช่นลิลลี่หรือสเนป ลิลลี่บอกว่าเธอแน่ใจว่าเพ็ตทูเนียไม่คิดว่ามันประหลาดแน่ ๆ เพราะเธอรู้ว่าเพ็ตทูเนียเขียนจดหมายถึงดัมเบิลดอร์ ขอร้องให้รับเธอเข้าเรียนด้วย ซึ่งทำให้เพ็ตทูเนียยิ่งโกรธมากขึ้นอีก ลิลลี่นั่งร้องไห้อยู่ในรถไฟ สเนปเข้ามานั่งด้วยและปลอบเธอโดยบอกเรื่องว่าพวกเขากำลังไปฮอกวอกต์ซึ่งทำให้ลิลลี่ยิ้มออกมาได้ สเนปบอกว่าเขาหวังว่าลิลลี่จะอยู่บ้านสลิธีริน จนกระทั่งเจมส์กับซีเรียสเข้ามานั่ง และบอกว่าเกทับว่าพวกเขาจะอยู่บ้านกริฟฟินดอร์ผู้กล้าหาญ จนมีงกันนิดหน่อย เจมส์กับซีเรียสเลยเยาะเย้ยสเนปก่อนย้ายไปนั่งที่อื่น สเนปเฝ้ามองอย่างผิดหวังเมื่อลิลลี่ถูกประกาศอยู่บ้านกริฟฟินดอร์ เธอหันมองสเนปอย่างเศร้า ๆ ก่อนจะยิ้มและเดินไปนั่งกับพวกกริฟฟินดอร์ ซีเรียสขยับที่ให้เธอนั่ง แต่เธอเหมือนจำเรื่องบนรถไฟได้ เลยกอดอกและหันหลังให้เขา ลิลลี่กับสเนปเดินคุยกัน แต่เหมือนจะทะเลาะกันมากกว่าที่ลานโรงเรียน ลิลลี่ไม่ชอบที่เห็นสเนปคบเพื่อนที่ใช้ศาสตร์มืด และสเนปเองก็ไม่ชอบพวกเจมส์เหมือนกัน และเขาสงสัยเรื่องของลูปินที่ป่วยทุกครั้งที่พระจันทร์เต็มดวง ลิลลี่เตือนเขาว่าเจมส์ช่วยชีวิตเขาจากต้นวิลโล่ว์จอมหวด แต่สเนปเย้ยว่าเจมส์แค่ต้องการจะเป็นฮีโร่เท่านั้นและเขารู้ดีว่าเจมส์ก็ชอบลิลลี่ สเนปถูกเจมส์ใช้คาถาจับขาลอยบนฟ้าและแกล้งเขา ลิลลี่กับพวกเพื่อน ๆ เข้ามาห้าม สเนปตะโกนด่าเธอว่าพวกเลือดสีโคลนด้วยความโกรธที่ถูกทำให้อับอาย สเนปตามขอโทษลิลลี่หลายต่อหลายครั้ง ถึงขนาดมานั่งเฝ้าหน้าทางเข้าบ้าน ลิลลี่ออกมาพบเขาเพราะเพื่อนเธอบอกว่าเขาตั้งใจจะนอนเฝ้าหน้าทางเข้า สเนปพยายามขอโทษ แต่ลิลลี่บอกว่าเหมือนพวกเขาเลือกทางเดินของตัวเองแล้วที่สเนปเลือกคบพวกผู้เสพความตาย และจะเข้าร่วมโวลเดอเมอร์ในภายหลัง ถึงขนาดเรียกเธอว่าเลือดสีโคลน และทำไมเธอถึงแตกต่างจากคนอื่น สเนปกำลังรอใครบางคนอยู่ ดัมเบิลดอร์ปรากฏตัวขึ้น ปลดอาวุธสเนปและถามว่าเขาต้องการอะไร สเนปขอร้องดัมเบิลดอร์ บอกว่าให้ช่วยลิลลี่ด้วย แต่ดัมเบิลดอร์บอกว่าคำทำนายไม่ได้หมายถึงลิลลี่ แต่เป็นลูกชายของเธอ สเนปแน่ใจว่าโวลเดอมอร์ต้องการจะฆ่าพวกเขาทั้งหมด และขอให้ดัมเบิลดอร์ช่วยลิลลี่ ซึ่งทำให้ดัมเบิลดอร์รู้สึกสมเพชสเนปมาก ๆ ที่คิดจะช่วยลิลลี่คนเดียว โดยไม่สนใจเจมส์กับลูก สเนปไม่ตอบ และขอให้ดัมเบิลดอร์ช่วยซ่อนพวกเขาทั้งหมดในที่ปลอดภัย และเขาจะยอมทำทุกอย่างให้ ที่ห้องทำงานของดัมเบิลดอร์ สเนปบอกว่าเขาคิดว่าดัมเบิลดอร์จะซ่อนพวกเธอในที่ปลอดภัย ดัมเบิลดอร์ตอบว่าพวกเขาเลือกคนไว้ใจผิด แต่แฮร์รี่ยังไม่ตาย สเนปที่หมดหวังแล้วไม่สนใจแฮร์รี่ จนดัมเบิลดอร์บอกว่าแฮร์รี่มีดวงตาที่ถอดแบบจากลิลลี่ และบอกว่า ถ้าสเนปรักลิลลี่จริง ๆ ทางเลือกของเขาก็ชัดเจนมาก อย่าให้ลิลลี่ต้องตายอย่างไร้ค่า สเนปต้องช่วยปกป้องลูกชายของลิลลี่ สเนปขอให้ดัมเบิลดอร์ห้ามบอกเรื่องนี้กับแฮร์รี่โดยเด็ดขาด สเนปเข้ามาบ่นกับดัมเบิลดอร์เรื่องนิสัยของแฮร์รี่ที่เหมือนเจมส์ไม่มีผิด แต่ดัมเบิลดอร์ไม่สนใจ บอกว่าจับตามองควีเรลล์ให้ดี ดัมเบิลดอร์ยืนคุยกับสเนปหลังงานเลี้ยงเต้นรำเลิก เรื่องของตรามารคาร์คารอฟเด่นชัดขึ้นมาอีกครั้ง และสเนปยืนยันว่าเขาจะไม่เข้าร่วมโวลเดอมอร์อีก ที่ห้องทำงานของดัมเบิลดอร์ ดัมเบิลดอร์ดูอิดโรยมาก สเนปใช้ไม้กายสิทธิ์และเอายามารักษาแผลที่มือของดัมเบิลดอร์ แหวนที่ถูกทำลายวางอยู่บนโต๊ะ สเนปบอกว่าดัมเบิลดอร์จะมีชีวิตอยู่ได้อีกประมาณหนึ่งปี เพราะคำสาปจะกระจายไปเรื่อย ๆ ดัมเบิลดอร์บอกว่าเขาโชคดีแล้ว แค่นี้ก็พอแล้ว และเขาก็มีสเนปอยู่ ดัมเบิลดอร์กล่าวถึงแผนของโวลเดอมอร์ที่จะใช้เดรโก้เข้ามาฆ่าตัวเขา สเนปบอกว่าโวลเดอมอร์เองก็ไม่คาดหวังว่าเดรโก้จะทำได้ ซึ่งจะเป็นการลงโทษครอบครัวมัลฟอย จริง ๆ แล้วเดรโก้เองก็ถูกหมายหัวไว้อยู่แล้วพอ ๆ กับดัมเบิลดอร์ ซึ่งหากเดรโก้ทำไม่สำเร็จคนที่จะทำงานต่อก็คือสเนป ดัมเบิลดอร์ฝากฝังให้สเนปปกป้องโรงเรียนและเด็ก ๆ เพราะไม่ช้าก็เร็วโวลเดอมอร์ต้องเข้ามายึดแน่ ๆ ดัมเบิลดอร์ขอให้สเนปเป็นคนที่สังหารเขา ซึ่งเวลานั้นกำลังจะมาถึง ดัมเบิลดอร์ไม่อยากให้จิตวิญญาณของเดรโก้กระทบกระเทือนมากกว่านี้ เพราะมันอาจจะยังเยียวยาได้อยู่ สเนปเดินคุยกับดัมเบิลดอร์ ถามว่าดัมเบิลดอร์ทำอะไรกับแฮร์รี่ แต่ดัมเบิลดอร์ไม่ยอมบอก บอกเพียงแค่ว่าเขาปรึกษาและบอกข้อมูลบางอย่างให้แฮร์รี่ สเนปบอกว่าดัมเบิลดอร์ไม่เชื่อเขา ดัมเบิลดอร์บอกว่าเขาไม่ควรบอกความลับทุกอย่างให้กับคน ๆ เดียว โดยเฉพาะกับสเนปที่ตอนนี้อยู่ใกล้ชิดกับโวลเดอมอร์แม้สเนปจะทำไปตามคำสั่งของดัมเบิลดอร์เองก็ตาม เขาแน่ใจว่าโวลเดอมอร์เองก็กลัวการเชี่อมต่อของโวลเดอมอร์กับแฮร์รี่ และคงไม่คิดจะเข้ามาควบคุมจิตใจแฮร์รี่อีก ดัมเบิลดอร์บอกสเนปเกี่ยวกับนากินี่ ว่าจะถึงเวลาที่โวลเดอมอร์เป็นห่วงชีวิตของงู เมื่อนั้นจะปลอดภัยที่จะบอกแฮร์รี่ถึงเรื่องคืนที่โวลเดอมอร์เข้ามาฆ่าครอบครัวพอตเตอร์ คำสาปของลิลลี่สลายวิญญาณของโวลเดอมอร์ ส่วนหนึ่งได้เข้าไปอยู่ในสิ่งมีชีวิตเดียวตรงนั้น ซึ่งก็คือแฮร์รี่ ทำให้แฮร์รี่พูดภาษาพาร์เซล เชื่อมต่อจิตใจกับโวลเดอมอร์ได้ และส่วนวิญญาณนั้นก็ได้ปกป้องแฮร์รี่ไปด้วย ซึ่งแฮร์รี่ต้องตายและโวลเดอมอร์ต้องเป็นคนฆ่าเขา โวลเดอมอร์ถึงจะตายได้ สเนปโกรธมากเพราะที่ผ่านมา เขาคอยปกป้องแฮร์รี่มาตลอด และท้ายที่สุด แฮร์รี่ก็ต้องถูกฆ่าอยู่ดี แค่เพียงแต่ตายให้ถูกที่ถูกเวลาเท่านั้น สเนปกล่าวว่าดัมเบิลดอร์เพียงใช้เขา ให้สเนปเป็นสาย เสี่ยงภัยอันตรายมากมายเพื่อเขา ทุกสิ่งที่เขาทำเพื่อปกป้องลูกชายของลิลลี่ให้ปลอดภัย ทุกอย่างที่ทำเพื่อเลี้ยงดูแฮร์รี่ราวกับหมูรอวันเชือด ดัมเบิลดอร์ถามเขาว่า สเนปรู้สึกเป็นห่วงแฮร์รี่แล้วหรือ สเนปถามกลับว่า เพื่อเขาหรือ แล้วก็เสกผู้พิทักษ์ออกมา มันเป็นกวางสาวสีเงิน ดัมเบิลดอร์น้ำตาไหลถามเขาว่า ตลอดเวลาเลยหรือ สเนปยืนยันว่า ตลอดเวลา สเนปยืนคุยอยู่กับภาพของดัมเบิลดอร์ ดัมเบิลดอร์บอกว่าให้เขาบอกโวลเดอมอร์วันและเวลาที่แท้จริงที่แฮร์รี่จะเดินทางจากบ้าน Dursleys และเพื่อไม่ให้ถูกสงสัย ให้สเนปไปบอกมันดันกัส ให้ใช้แผนน้ำยาสรรพรส และเปลี่ยนความทรงจำเขา ให้บอกภาคีว่านี่คือแผนของมันดันกัสเอง สเนปขี่ไม้กวาดไล่ตามลูปินกับจอร์จในร่างของแฮร์รี่ ผู้เสพความตายบินอยู่หน้าสเนปและชี้ไม้กายสิทธิ์ไปที่ลูปิน สเนปเสกคาถา ตั้งใจจะเล็งไปที่ไม้กายสิทธิ์ของผู้เสพความตาย แต่คาถาพุ่งไปโดนจอร์จแทน สเนปนั่งอยู่ในห้องนอนของซีเรียส น้ำตาไหลเมื่ออ่านจดหมายของลิลลี่ เขาฉีกจดหมาย เอาในส่วนหน้าที่สอง ที่เขียนว่า ดัมเบิลดอร์เคยเป็นเพื่อนกับ Grindelwald และ Bathilda คงคิดไปเอง รักเสมอ จากลิลลี่ สเนปเก็บส่วนที่ลงลายเซ็นต์ของลิลลี่เอาไว้ และฉีกรูปเอาแต่ลิลลี่ไป โดยทิ้งส่วนที่เหลือคือเจมส์กับแฮร์รี่ไว้ในลิ้นชัก ในห้องทำงาน สเนปยืนอยู่เมื่อ Phineas กลับเข้ามาในรูป บอกว่าได้ยินเฮอร์ไมโอนี่พูดว่าพวกเขาอยู่ที่ Forest of Dean ดัมเบิลดอร์บอกให้สเนปเอาดาบไป และอย่าให้แฮร์รี่รู้ว่าเป็นสเนป บทที่ 34 - The Forest Again เมื่อความจริงเปิดเผยแล้ว แฮร์รี่ก็เข้าใจว่าเขาไม่ควรมีชีวิตอยู่อีก และต้องตายแบบไม่ขัดขืน เขาเข้าใจดัมเบิลดอร์แล้วด้วย แต่ก่อนที่เขาจะตาย เขาต้องบอกเรื่อง Horcruxes สุดท้าย แฮร์รี่พบเนวิลล์ที่กำลังเก็บร่างของ Colin Creevey เขาฝากให้เนวิลล์ฆ่างูที่อยู่โวลเดอมอร์ซึ่งเนวิลล์ก็รับปาก ที่ชายป่า มี Dementors เต็มไปหมด และแฮร์รี่ก็ไม่เหลือแรงกำลังที่จะเสกผู้พิทักษ์อีก เขาจึงหยิบลูกสนิทช์ขึ้นมา กระซิบว่าเขากำลังจะตาย ลูกสนิทช์แตกออก Resurrection Stone อยู่ข้างใน แล้วแฮร์รี่ก็เข้าใจว่า มันไม่ได้เพื่อทำให้คนตายฟื้นคืน เขากำลังจะกลายเป็นคนตายเหมือนพวกนั้น แฮร์รี่หมุนหินสามครั้ง แล้วเขาก็เห็นเจมส์ ลิลลี่ ซีเรียสกับลูปิน ไม่ใช่ผีหรือร่างเนื้อ เหมือนที่เขาเคยเห็นทอม ริดเดิ้ลจากไดอารี่ พวกเขาเหมือนกับเป็นผู้พิทักษ์ให้แฮร์รี่ โดยที่ Dementors ทำอะไรเขาไม่ได้ เขายังอยู่ใต้ผ้าคลุมล่องหน เดินลึกเข้าไปในป่า โวลเดอมอร์อยู่กล่ามกลางผู้เสพความตาย เกือบจะคิดว่าเขาคิดผิดเสียแล้ว แต่แฮร์รี่ก็ตะโกนออกมา และเผลอทำ Resurrection Stone หล่นจากมือ วิญญาณพวกพ่อหายไป เขาเดินเข้าไปท่ามกลางเสียงหัวเราะของผู้เสพความตาย แฮกริดถูกจับไว้ตรงนั้น ตะโกนห้ามไม่ให้แฮร์รี่เข้ามา แฮร์รี่เห็นงูนากินี่ คิดในใจว่าคงฆ่ามันไม่ได้แน่ ๆ เพราะผู้เสพความตายตรงนั้นคงฆ่าเขาก่อน เขาจึงได้แต่เดินเข้าไปหา โวลเดอมอร์ยกไม้กายสิทธิ์ แฮร์รี่เห็นแสงสีเขียวและทุกสิ่งก็ดับวูงลง บทที่ 35 – King’s Cross ทุกอย่างเงียบไปหมด แฮร์รี่รู้สึกตัวและมองไปรอบ ๆ แล้วดัมเบิลดอร์ก็เดินมาหา แฮร์รี่ถามว่าดัมเบิลดอร์ตายแล้ว เขาก็คงตายแล้วเหมือนกัน ดัมเบิลดอร์ตอบว่าตัวเขาตายแล้วจริง ๆ แต่ส่วนแฮร์รี่ เขาคิดว่ายังไม่ตาย เพราะแฮร์รี่ไม่ได้คิดปกป้องตัวเองเลยและปล่อยให้โวลเดอมอร์ฆ่า เพื่อทำลายส่วนเสี้ยววิญญาณโวลเดอมอร์ในร่างเขาให้หมดไป ตอนนี้วิญญาณของแฮร์รี่สมบูรณ์แล้ว ร่างเนื้อของโวลเดอมอร์ในตอนนี้ก็มีเลือดของแฮร์รี่ที่ลิลลี่ใช้เวทมนต์ปกป้อง และแฮร์รี่ก็คือ Horcrux อันที่เจ็ดที่เขาไม่ได้ตั้งใจจะสร้างขึ้น เมื่อครั้งที่เขาจะฆ่าแฮร์รี่ตอนเด็ก เขาได้ทิ้งส่วนหนึ่งของตัวเองไว้กับแฮร์รี่ ดัมเบิลดอร์บอกว่าโวลเดอมอร์เป็นคนเลือดเย็น ไม่รู้จักและเข้าใจในความรัก แฮร์รี่ถามเรื่องไม้กายสิทธิ์ว่าทำไมไม้ของเขาทำลายไม้ที่โวลเดอมอร์ยืมมาได้ ดัมเบิลดอร์ตอบว่าเขาเดาเอาว่าแฮร์รี่ยอมรับความตาย ซึ่งเป็นสิ่งที่โวลเดอมอร์ทำไม่ได้ และไม้กายสิทธิ์รับรู้ถึงความสัมพันธ์ของผู้เป็นนาย โวลเดอมอร์เป็นทั้งญาติและศัตรู ไม้กายสิทธิ์เก็บพลังแห่งความกล้าหาญและสามารถเอาชนะไม้ของลูเซียสได้ แต่มันก็ถูกเฮอร์ไมโอนี่ทำลายได้ เพราะพลังของไม้แฮร์รี่จะส่งผลโดยตรงต่อโวลเดอมอร์เท่านั้น โวลเดอมอร์ไม่ได้ฆ่าแฮร์รี่ เขาล้มเหลวในการฆ่าแฮร์รี่ต่างหาก ในตอนนั้น แฮร์รี่ก็รู้สึกว่าเขากำลังอยู่ในสถานีคิงครอส เมื่อเขาถามดัมเบิลดอร์เกี่ยวกับ Deathly Hallows ดัมเบิลดอร์ก็เหมือนเด็กที่ทำผิดแล้วถูกจับได้ เขาขอให้แฮร์รี่ยกโทษให้เพราะเขาเหมือนกับคนโง่ที่ลุ่มหลงไปกับมัน เขาเองก็หาทางเอาชนะความตายเช่นเดียวกัน มันคือสิ่งที่ผูก Grindelwald เข้าด้วยกัน ด้วยความลุ่มหลง … ดัมเบิลดอร์บอกว่าผ้าคลุมล่องหนเป็นมรกดของ Ignotus ตกทอดไปยังลูกหลาน เขาขอยืนผ้าคลุมมาตรวจดู แม้เขาจะทิ้งความฝันเรื่อง Hallows ไปนานแล้ว แต่เขาก็ยังตื่นเต้นกับมัน และเมื่อเจมส์ตาย เขาก็ได้ครอง Hallows แล้วถึงสองอย่าง ส่วนเรื่องน้องสาว เขายอมรับว่าเขาอยากหนีไปหาความรุ่งโรจน์ แม้เขาจะรักครอบครัวมากก็ตาม แต่ความเห็นแก่ตัวก็ยังมี เขารู้สึกเหมือนถูกขังเมื่อต้องรับผิดชอบน้อง ๆ หลัง และเมื่อ Grindelwald เข้ามา มันก็เหมือนมาจุดประกายให้อีก จากนั้น Grindelwald ก็หนีไปหลังเกิดเหตุการณ์ที่น้องสาวเขาตาย หลังจากนั้น ก็มีข่าวลือว่า Grindelwald ได้พบไม้กายสิทธิ์ทรงพลัง ส่วนเขาก็เป็นอาจารย์ที่ฮอกวอร์ต ฝึกสอนพ่อมดแม่มด ส่วน Grindelwald ก็สร้างกองทัพ ดัมเบิลดอร์ยอมรับว่าเขาเองก็กลัว Grindelwald จนถ่วงเวลาการประลองไปเรื่อยจนถ่วงไม่ได้อีก ท้ายที่สุด เขาก็ชนะประลอง Grindelwald ถูกขังที่ Nurmengard และโกหกโวลเดอมอร์ว่าเขาไม่มี Elder Wand บางทีการโกหกนี้ก็เพื่อแก้ไขเรื่องในอดีต และหยุดไม่ให้โวลเดอมอร์ตามหา Hallows อีก แล้วดัมเบิลดอร์ก็พบ Resurrection Stone ที่บ้านของ Gaunt เขาคิดว่าจะได้พบน้องสาวและแม่อีก แต่เขาก็โง่มาก ไม่ใช่ใครทุกคนจะรวม Hallows ได้ ดัมเบิลดอร์ยอมรับว่าเขาเป็นผู้ครอง Elder Wand และใช้มันปกป้องผู้อื่น ไม่ใช่เพื่อผลประโยชน์ตนเอง ส่วนผ้าคลุม เขาเอาไปดูเพราะความอยากรู้อยากเห็น เจ้าของที่แท้จริงคือแฮร์รี่ แฮร์รี่ถามว่าทำไมต้องทำให้ทุกอย่างมันยากขึ้นด้วย ซึ่งดัมเบิลดอร์ก็ให้เหตุผลว่า หากบอกไปตรง ๆ พวกเขาอาจออกตามหาสิ่งที่น่ายั่วยวนใจทันที โดยลืมเหตุผลที่แท้จริงไป โวลเดอมอร์ไม่รู้เรื่อง Hallows เพราะเขาเปลี่ยน Resurrection Stone ในแหวนเป็น Horcrux และ Elder Wand จะช่วยเขาทรงอำนาจไม่มีใครมาล้มได้ แฮร์รี่ถามว่าเขาจะกลับไปได้ไหม ดัมเบิลดอร์บอกว่าแล้วแต่เขา แฮร์รี่มีทางเลือก อย่าสงสารคนตาย ให้สงสารคนเป็น โดยเฉพาะผู้ที่มีชีวิตโดยปราศจากความรัก หากกลับไปแล้ว เขาแน่ใจว่าวิญญาณผู้อื่นจะถูกทำร้ายน้อยลง และครอบครัวจะไม่ถูกทำลายมากไปกว่านี้ เขาก็ควรกลับไป บทที่ 36 - The Flaw in the Plan แฮร์รี่รู้สึกเหมือนหล่นลงมาจากฟ้าสู่พื้นดินอีกครั้ง เขารู้สึกเจ็บไปหมดหลังจากถูกคำสาปสังหาร แต่เขาก็ยังนอนอยู่ในท่าเดิม ไม่ขยับ เขาแอบลอบมองดู และเห็นว่าโวลเดอมอร์เองก็ล้มลงไปเช่นกันราวกับคำสาปส่งผลถึงเขาด้วย โวลเดอมอร์สั่งให้คนไปดูว่าแฮร์รี่ตายจริง ๆ หรือยัง แฮร์รี่ได้ยินเสียงกระซิบที่เบามาก ๆ ของนาร์ซิสซ่า ถามเขาว่า เดรโก้ยังมีชีวิตอยู่ไหม เขายังอยูในปราสาทใช่ไหม แฮร์รี่กระซิบตอบไปว่าใช่ แล้วนาร์ซิสซ่าก็บอกทุกคนว่าแฮร์รี่ตายแล้ว ผู้เสพความตายคนอื่นต่างดีใจ โวลเดอเมอร์ใช้คำสาปกรีดแทงไปยังแฮร์รี่เพื่อความสะใจตัวเอง แต่แฮร์รี่รู้สึกแปลกมากเพราะคาถาทำอะไรเขาไม่ได้เลย เขาไม่รู้สึกเจ็บสักนิด แต่เขาก็ยังแกล้งทำเป็นตายอยู่ โวลเดอมอร์ให้แฮกริดเป็นคนอุ้มแฮร์รี่เข้าไปในปราสาท โวลเดอมอร์ใช้เวทมนต์ส่งเสียงไปบอกทุกคนในปราสาทว่าพวกเขาชนะแล้ว แฮร์รี่ตายแล้ว หากใครยังต่อต้านอีกจะถูกสังหาร แล้วเขาก็เดินนำ งูนากินี่ลอยตามมาโดยไม่ได้อยู่ในกรงอีกแล้ว แฮกริดที่อุ้มแฮร์รี่ไว้เดินตามมาพร้อมกับผู้เสพความตาย เดินเข้าไปในปราสาท แฮร์รี่ได้ยินเสียงร้องของมักกอลนากัล รอน เฮอร์ไมโอนี่ จินนี่ และเพื่อน ๆ ทุกคน เขาอยากตะโกนกลับไปว่าเขายังไม่ตาย แต่เขาทำไม่ได้ โวลเดอมอร์ให้แฮกริดวางแฮร์รี่แทบเท้า และบอกทุกคนว่าเขาสังหารแฮร์รี่ขณะที่แฮร์รี่กำลังพยายามหนี ทันใดนั้น ก็มีแสงจากคาถาพุ่งเข้าจะทำร้ายโวลเดอมอร์ แต่คนร่ายคาถาถูกปลดอาวุธเสียก่อน เขาคือเนวิลล์ โวลเดอมอร์ชักชวนเนวิลล์ให้มาเป็นผู้เสพความตายเพราะเนวิลล์เป็นพวกเลือดบริสุทธิ์ แต่เนวิลล์ปฏิเสธเสียงแข็ง โวลเดอมอร์โบกไม้กายสิทธิ์ หมวกคัดสรรอยู่ในมือเขา และเขาก็ประกาศว่าต่อไปที่โรงเรียนจะมีแต่บ้านสลิธีรินเท่านั้น จากนั้นโบกหมวกคัดสรรไปสวมที่หัวของเนวิลล์ บอกว่านี่คือตัวอย่างของผู้ที่ต่อต้านเขา แล้วหมวกคัดสรรก็ลุกเป็นไฟบนหัวของเนวิลล์ ทันใดนั้น ทุกอย่างเกิดขึ้นแทบจะพร้อมกัน เสียงของ Grawp กับยักษ์ของโวลเดอมอร์ดังลั่น ท่ามกลางความชุลมุน แฮร์รี่ซ่อนตัวใต้ผ้าคลุมล่องหน และหลบออกจากตรงนั้น เนวิลล์สลัดหมวกคัดสรรหลุดไปได้ พร้อมกับดึงดาบกริฟฟินดอร์ออกมา และฟันหันงูนากินี่ตาย ทุกคนต่อสู้กัน แฮร์รี่พยายามเสกคาถาป้องกันให้กับคนที่กำลังจะถูกโวลเดอมอร์ทำร้าย เซ็นทอร์ บัคบีค Thestral เอลฟ์ประจำบ้าน ผีประจำโรงเรียน ครอบครัวนักเรียนที่ทราบข่าว ชาวบ้านที่ Hogsmeade และ Grawp ต่างเข้ามาสู้กันวุ่นวาย โวลเดอมอร์กำลังดวลอยู่กับมักกอลนากัล คิงสลีย์และสลัคฮอร์น ขณะที่เบลลาทริกซ์กำลังสู้กับเฮอร์ไมโอนี่ จินนี่และลูน่า จากนั้นมอลลี่ก็เข้ามา ตะโกนก้องบอกว่าห้ามเบลลาทริกซ์แตะต้องลูก ๆ ของเธออีก สองคนสู้กัน แล้วคำสาปของมอลลี่ก็สังหารเบลลาทริกซ์ลงได้ท่ามกลางความโกรธแค้นของโวลเดอมอร์ เขากำลังจะสาปมอลลี่ แฮร์รี่ก็เลยสลัดผ้าคลุมออก และร่ายเวทมนต์ป้องกันให้มอลลี่ ทุกคนต่างโห่ร้องยินดีเพราะเห็นว่าแฮร์รี่ยังไม่ตาย แฮร์รี่ขึ้นไปเผชิญหน้ากับโวลเดอมอร์และประกาศไม่ให้ใครมาช่วย เพราะมันต้องเป็นเขาคนเดียวเท่านั้น แฮร์รี่บอกว่าคาถาของโวลเดอมอร์ทำร้ายคนอื่นไม่ได้อีกแล้ว และเขายอมตายเพื่อปกป้องเพื่อน ๆ เหมือนกับที่ลิลลี่เคยทำ โวลเดอมอร์เลยทำร้ายเพื่อน ๆ เขาไม่ได้อีก โวลเดอมอร์เย้ยแฮร์รี่ว่าเป็นเพราะความรักอีกแล้ว แต่ความรักก็หยุดไม่ให้ดัมเบิลดอร์ตายได้ ไม่ได้ช่วยให้แม่ของแฮร์รี่รอดพ้นความตาย และจะไม่มีอะไรมาช่วยแฮร์รี่ให้รอดพ้นความตายได้อีกถ้าเขาจัดการแฮร์รี่ แฮร์รี่บอกว่ายังมีอีกอาวุธอีกอย่างหนึ่ง และเขาก็เชื่อมั่นทั้งความรักและอาวุธนั้น 36 #2 โวลเดอมอร์บอกว่าเขาเป็นคนฆ่าดัมเบิลดอร์ ดัมเบิลดอร์ตายแล้ว แต่แฮร์รี่บอกว่าโวลเดอมอร์คิดผิด ดัมเบิลดอร์ไม่ได้ถูกฆ่า มันเป็นการวางแผนมานานหลายเดือนแล้ว และสเนปก็เป็นคนของดัมเบิลดอร์มาโดยตลอด เพราะสเนปรักลิลลี่มาตลอดชีวิต โวลเดอมอร์เถียงกลับว่ามันไม่มีประโยชน์อะไรอีก เพราะตอนนี้เขาคือเจ้าของ Elder Wand และเขาก็สังหารสเนปแล้ว แฮร์รี่บอกว่า Elder Wand ไม่ได้ทำงานอย่างเต็มความสามารถเพราะโวลเดอมอร์ฆ่าคนผิด สเนปไม่ได้เป็นเจ้าของ Elder Wand เพราะสเนปไม่ได้ฆ่าดัมเบิลดอร์ มันเป็นการวางแผนกันมาแล้วตั้งแต่ต้น และดัมเบิลดอร์ตั้งใจที่จะตายอยู่แล้ว หากเจ้าของไม้กายสิทธิ์ตาย พลังมันจะตายไปด้วย แม้โวลเดอมอร์ขโมยไม้จากศพของดัมเบิลดอร์ก็จริง แต่ไม้จะเลือกเจ้านายเอง และ Elder Wand ก็เลือกเจ้านายแล้วก่อนที่ดัมเบิลดอร์จะตาย คนที่แย่งมันไปจากดัมเบิลดอร์โดยที่เจ้าตัวไม่ได้ตั้งใจหรือรู้ตัวมาก่อน ซึ่งก็คือเดรโก้ มัลฟอย แล้วแฮร์รี่ก็เอาชนะเดรโก้ได้ และแย่งไม้กายสิทธิ์ของเดรโก้มาครอง แล้ว Elder Wand ก็รู้แล้วว่าเจ้าของมันถูกเอาชนะไปแล้ว และในตอนนี้ เจ้าของที่แท้จริงของ Elder Wand คือแฮร์รี่เอง แสงจากไม้กายสิทธิ์ทั้งสองพุ่งใส่กัน โวลเดอมอร์ร่ายคาถาสังหาร แฮร์รี่ใช้คาถาปลดอาวุธ Elder Wand ลอยขึ้นในอากาศ หมุนวนเหมือนกับหัวของนากินี่ แฮร์รี่กระโดดรับ Elder Wand ขณะที่โวลเดอมอร์ล้มลง ตายเพราะการสะท้อนกลับของคาถาตนเอง แล้วเสียงโห่ร้องยินดีก็ดังขึ้น ทุกคนต่างกรูกันเข้ามายินดีกับแฮร์รี่ เขากลายเป็นส่วนหนึ่งทั้งการแสดงความยินดี และความโศกเศร้า ทุกคนต้องการเขาตรงนั้น แฮร์รี่จับมือกับทุกคน พูดคุยกับทุกคน และรับคำขอบคุณจนกระทั่งเช้า เขาไม่ได้นอนเลย ผู้เสพความตายต่างหลบหนี ไม่ก็ถูกจับ ผู้บริสุทธิ์ถูกปล่อยตัวจากอัซคาบัน คิงสลีย์ขึ้นเป็นรัฐมนตรีชั่วคราว ศพของผู้ที่เสียชีวิตอยู่ในห้องโถง ครอบครัวมัลฟอยก็อยู่ที่นั้น ทุกคนนั่งโดยไม่แบ่งแยกบ้านอีก ท้ายที่สุด แฮร์รี่หลบจากห้องโถงได้ และพารอนกับเฮอร์ไมโอนี่ไปที่ห้องทำงานของดัมเบิลดอร์ อาจารย์ใหญ่ในภาพวาดต่างปรบมือแสดงความยินดีกับแฮร์รี่ แฮร์รี่บอกดัมเบิลดอร์ในภาพว่าเขาทำ Resurrection Stone หล่นไปป่าและไม่รู้ว่าอยู่ตรงไหน และเขาต้องการเก็บผ้าคลุมล่องหนเอาไว้ ส่วน Elder Wand แฮร์รี่บอกว่าเขาไม่ต้องการมัน เขาหยิบไม้กายสิทธิ์อันเดิมของตนเองที่ถูกทำลายออกมา ใช้ Elder Wand เสกคาถาซ่อมแซม จนไม้กายสิทธิ์กลับมาอยู่ในสภาพเดิม แฮร์รี่บอกว่าเขาจะเก็บ Elder Wand ในที่ ๆ มันจากมา และจะทิ้งไว้แบบนั้น เมื่อตัวเขาตาย พลังของมันก็จะหมดเพราะเจ้าของ ๆ มันไม่ได้ถูกผู้ใดเอาชนะ Elder Wand สร้างปัญหามากมายให้เขามากพอแล้ว และตอนนี้ เขาคิดถึงเตียงสี่เสาที่หอพักกริฟฟินดอร์ และหวังว่าครีเชอร์จะทำแซนวิชมาให้กิน Epilogue (19ปีต่อมา) วันที่ 1 กันยายน แฮร์รี่จูงลูกสาวผมแดงชื่อลิลลี่ ปลอบเธอว่าอีกไม่นานก็จะได้ไปโรงเรียนแล้ว เขาได้เสียงอัลบัส ลูกชายบ่นว่าเขาจะไม่อยู่บ้านสลิธีรินเมื่อเจมส์ ลูกชายคนโตพูดแหย่เล่นจนจินนี่ต้องจ้องอย่างดุ ๆ พวกเขาเดินผ่านชานชาลา ไปที่รถด่วนสายฮอกวอร์ต พวกเขาพบรอนกับเฮอร์ไมโอนี่และลูกสาวชื่อโรส ลูกชายที่ชื่อฮิวโก้กำลังคุยกับอัลบัสเรื่องที่ว่าพวกเขาจะไปอยู่บ้านไหน พวกเขาเห็นเดรโก้มาส่งลูกชายเหมือนกัน ซึ่งเดรโก้ก็พยักหน้าทักทายกัน เจมส์บอกว่าเขาเห็นเท็ดดี้อยู่กับ Victoire จินนี่สส่งเจมส์ขึ้นรถไฟ ฝากความคิดถึงไปให้เนวิลล์ที่เป็นอาจารย์ที่ฮอกวอร์ต แฮร์รี่เห็นอัลบัสยังดูกังวลใจเรื่องการคัดสรรบ้านอยู่ จึงเข้าไปให้กำลังใจ บอกว่าเขาถูกตั้งชื่อว่า อัลบัส เซเวอร์รัส ตามชื่ออาจารย์ใหญ่สองคนของฮอกวอร์ต หนึ่งในนั้นเป็นสลิธีรินและเป็นคนที่กล้าหาญที่สุดที่เขาเคยรู้จัก บ้านสลิธีรินมีนักเรียนที่ยอดเยี่ยมเสมอ แต่หากเขาไม่อยากอยู่ เขาก็เลือกอยู่กริฟฟินดอร์ได้ เพราะหมวกคัดสรรยอมรับทางเลือกของแฮร์รี่มาก่อน เด็ก ๆ ขึ้นรถไฟและโบกมือลา จินนี่พึมพำว่าลูก ๆ คงไม่เป็นไร แฮร์รี่แตะแผลเป็นที่หน้าผาก ซึ่งไม่เคยเจ็บอีกเลยตลอดสิบเก้าปี และเขาก็แน่ใจว่าทุกอย่างจะเรียบร้อยดี เหนื่อยมากค่ะ กว่าจะรวบรวมครบทั้ง 36 ตอนได้ ทั้งหมดนี้ต้องขอขอบพระคุณคุณ บีจัง ที่ทั้งเก่งแปลออกมาได้ทั้งหมด และนำมาให้พวกเราอ่านกัน เครดิต ::: http://oatato.exteen.com/20070726/entry-1

ไม่มีความคิดเห็น:

when i was young

when i was young
like a boy

จัดให้เต็มๆ

จัดให้เต็มๆ
มองไรนักหนา ไม่เคยเห็นคนน่ารักไง คนไรก็ไม่รู้