ขอน้อมอาลัย สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์

เว็บนี้สามารถใช้งานได้ตามปกติแล้ว



ร่วมเติมเต็มทุกหัวใจของคนที่มีรักได้ที่นี่

แล้วคุณจะรู้ว่า
ปรารถนาจะเป็นผู้สั่งการ
หัวใจคือผู้เร่งเร้าให้รุ่มร้อน
เรือนกายคือผู้ปฏิบัติตามปรารถนา
ทุกสิ่งจะเป็นไปตามครรลองของมันเองทุกประการ

ที่นี่จะรวมบทวิจารณ์ รวมถึงข่าวสารสาระที่เป็นประโยชน์ต่างๆไว้
โดยเฉพาะที่มาจากความคิดเห็นของผู้แต่งเอง
ทั้งนี้ผู้แต่งจะไม่ขอรับผิดชอบใดๆ อันเกิดจากการนำข้อความดังกล่าวที่ปรากฏในบล็อกไปใช้อย่างไม่เหมาะสม
เข้ามาร่วมแสดงความคิดเห็น ติชม กันเยอะๆนะคะ
ขอบพระคุณไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะคะ


ด้วยความปราถนาดี

R-ka



ผู้เยี่ยมชมสามารถเข้าชมได้อีกบล็อกนึง คือ

http://www.rka-state.vox.com/


Mariah Carey - Bye Bye

lay on my high-heels

lay on my high-heels
งานบายเนียรปี2008 ค่ะ

วันพฤหัสบดีที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2551

ผู้ว่าฯ ธปท.ประกาศยกเลิกมาตรการสำรอง 30% แล้ว มีผล 3 มี.ค.นี้



โดย ผู้จัดการออนไลน์ 29 กุมภาพันธ์ 2551 17:04 น.

ผู้ว่าการ ธปท.ประกาศยกเลิกมาตรการสำรอง 30% แล้ว โดยให้มีผล 3 มี.ค.นี้ หลังข่าวลือสะพัดหนัก “ธาริษา” ยืนยันสาเหตุการยกเลิก เพราะตัวเลข ศก.เริ่มฟื้นตัวขึ้นชัดเจน ขณะที่นักค้าเงิน ชี้ ค่าเงินบาทแข็งขึ้นเร็วมาก โดยแกว่งแตะ 31.40-31.60 บาท/ดอลลาร์ ล่าสุด ธปท.มีการประกาศมีมาตรการต่างๆ รองรับสถานการณ์ ทั้งมาตรการสกัดการเก็งกำไร และมาตรการชั่วคราว เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการรายย่อยแล้ว


วันนี้ (29 ก.พ.) นางธาริษา วัฒนเกส ผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดแถลงข่าวใหญ โดยประกาศยกเลิกมาตรการสำรอง 30% เงินทุนนำเข้าระยะสั้น มีผล 3 มี.ค.นี้ เนื่องจากสถานการณ์แวดล้อมต่างๆ เอื้ออำนวย และมีการเตรียมมาตรการรองรับไว้หมดแล้ว โดยเช้าวันจันทร์ ธปท.จะเชิญผู้บริหารธนาคารพาณิชย์ เข้ารับฟังคำชี้แจงเกี่ยวกับการยกเลิกมาตรการ 30% โดยการชี้แจงดังกล่าว จะครอบคลุมถึงเงินที่ธนาคารได้มีการกันสำรอง และนำส่งมายัง ธปท.ว่าจะมีการส่งคืนภายในเมื่อไหร่ อย่างไรด้วย
ผู้ว่าการ ธปท.กล่าวถึงมาตรการรองรับการบริหารจัดการการไหลเข้า-ออกของเงินทุนหลักการยกเลิกมาตรการ รวมทั้งมีมาตรการติดตามข้อมูลและป้องกันการเก็งกำไรค่าเงิน ธปท.ซึ่งได้แก่ การสนับสนุนการลงทุนในหลักทรัพย์ต่างประเทศ โดยเพิ่มวงเงินให้สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เป็นจำนวน 30 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อจัดสรรให้กับ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.), บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (บลจ.) รวมทั้งบุคคลธรรมดาที่ลงทุนผ่านกองทุนส่วนบุคคล หรือผ่าน บล.ในการลงทุนในหลักทรัพย์ต่างประเทศสำหรับการปรับปรุงมาตรการป้องปราบการเก็งกำไรค่าเงินบาทที่สำคัญ คือ ปรับเกณฑ์การกู้ยืมเงินบาทของสถาบันการเงินในประเทศจากผู้มีถิ่นฐานนอกประเทศ โดยลดวงเงินกู้ยืมโดยไม่มีธุรกรรมรองรับทุกอายุสัญญาให้มียอดคงค้างแต่ละสถาบันการเงินไม่เกิน 10 ล้านบาทต่อกลุ่มผู้มีถิ่นฐานนอกประเทศ เพื่อจำกัดช่องทางการเก็งกำไรรวมทั้งปรับเกณฑ์การจำกัดการปล่อยสภาพคล่องเงินบาทของสถาบันการเงินในประเทศแก่ผู้มีถิ่นฐานนอกประเทศ โดยไม่มีธุรกรรมรองรับ ให้มียอดคงค้างแต่ละธนาคารไม่เกิน 300 ล้านบาทต่อกลุ่มผู้มีถิ่นฐานนอกประเทศเพื่อเพิ่มความต้องการซื้อเงินตราต่างประเทศธปท.ยังปรับปรุงโครงสร้างบัญชีผู้มีถิ่นฐานนอกประเทศ โดยแยกประเภทบัญชีเงินบาทออกเป็นบัญชีเพื่อการลงทุนในหลักทรัพย์และตราสารทางการเงินอื่น และบัญชีเพื่อวัตถุประสงค์อื่น เพื่อประโยชน์ในการติดตามการไหลเข้า-ออกของเงินทุน
โดยเงินบาทในแต่ละประเภทบัญชีสามารถโอนระหว่างประเภทบัญชีเดียวกันได้ แต่ห้ามโอนข้ามประเภทบัญชีนางธาริษา กล่าวว่า ธปท.ยังมีมาตรการชั่วคราวเพื่อสนับสนุนการปรับตัวและเพิ่มประสิทธิภาพการผลิของผู้ประกอบการรายย่อย (SME) โดยจัดโครงการเพิ่มประสิทธิภาพ 3 ปี ด้วยการให้สินเชื่อดอกเบี้ยผ่อนปรนผ่านสถาบันการเงินรวม 4 หมื่นล้านบาท และจัดโครงการรับซื้อต่อเงินตราต่างประเทศล่วงหน้าที่ผู้ประกอบการรายย่อยขายผ่านสถาบันการเงิน เป็นเวลา 6 เดือน
นางธาริษา กล่าวถึงสาเหตุที่ยกเลิกมาตรการดังกล่าว เนื่องจากตัวเลขเศรษฐกิจในไตรมาส 4 ปี 2550 และเดือน ม.ค.51 เห็นถึงการฟื้นตัวของอุปสงค์ในประเทศ ขณะที่กระแสเงินทุนเข้าออกเริ่มมีความสมดุลด้านปริมาณเงินตราต่างประเทศเข้า-ออก มีควาสสมดุลมากขึ้น จากการเกินดุลการค้าเริ่มชะลอลงในเดือนมกราคม 2551 ประกอบกับปริมาณงินลงทุนของไทยในต่างประเทศได้ปรับตัวสูงขึ้นตามการผ่อนคลายข้อจำกัดด้านการลงทุนในต่างประเทศ รวมทั้งการอนุญาตให้บุคคลในประเทศฝากเงินตราต่างประเทศที่ธนาคารพาณิชย์ได้เพิ่มขึ้น ซึ่งมีผลเมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ 2551
ในส่วนของภาคการผลิตและภาคการส่งออกได้รับตัวรองรับการเปลี่ยนแปลงค่าเงินได้ดีขึ้นจากการป้องกันควาเมสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนที่เพิ่มขึ้นมาก รวมทั้งได้มีการปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต การจัดการ และการกระจายตลาดทั้งนี้ ธปท.มีเครื่องมือมากขึ้นในการดูแลสภาพคล่องและค่าเงิน ภายใต้ พ.ร.บ.ธปท.ฉบับใหม่ นอกจากนี้ แผนของกระทรวงการคลังในการปรับปรุงโครงสร้างและบริหารหนี้สาธารณะ รวมถึงการใช้ประโยชน์จาก พ.ร.บ.หนี้สาธารณะที่จะมีผลบังคับใช้ในเร็วๆ นี้ จะช่วยเพิ่มความสมดุลของเงินทุนเคลื่อนย้ายนอกจากนั้น
ในระยะหลังมีการคาดการณ์กันอย่างกว้างขวางว่าจะมีการยกเลิกมาตรการดำรงเงินสำรองเงินนำเข้าระยะสั้น ผู้เกี่ยวข้องต่างๆ ในตลาดก็ได้ปนับเปลี่ยนพฤติกรรมไปตามคาดการณ์ดังกล่าว จนทำให้ประสิทธิผลของมาตรการลดลงตามลำดับนางธาริษา ยืนยันว่า ธปท.ได้พิจารณาปัจจัยด้านต่างๆ ที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรอบคอบแล้ว และเห็นว่า สถานการณ์ขณะนี้เหมาะสม เนื่องจากข้อมูลเศรษฐกิจในประเทศฟื้นตัวชัดเจน ส่งออกขยายตัวดี บวกกับมีแผนกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล ทำให้ความเชื่อมั่นเอกชนเพิ่มขึ้น ปริมาณเงินไหล-เข้าออกสมดุลกัน, เงินลงทุนของไทยในต่างประเทศปรับสูงขึ้น, มีการอนุญาตให้คนไทยไปลงทุนต่างประเทศเพิ่มขึ้น ประกอบกับแบงก์ชาติมีเครื่องมือในการดูแลสภาพคล่องมากขึ้น ภายใต้ พ.ร.บ.ฉบับใหม่ จึงได้จังหวะเหมาะสมแล้ว ที่เห็นควรประกาศในวันนี้ทั้งนี้ ธปท.ได้ประกาศใช้มาตรการกันสำรอง 30% มาตั้งแต่ปลายปี 2549 เพื่อสกัดกั้นเงินทุนระยะสั้นต่างประเทศที่เข้ามาเก็งกำไรเงินบาท และเพื่อชะลอการแข็งขึ้นอย่างรวดเร็วของเงินบาทเมื่อเทียบกับสกุลอื่นๆ
โดยก่อนหน้านี้ มีข่าวลืมสะพัดอย่างหนักว่า ธปท.โดนแรงกดดันทางการเมือง เข้ามาบีบทุกรูปแบบ เพื่อให้เร่งประกาศยกเลิกกันสำรอง 30% เพื่อกระตุ้นการกลับเข้ามาลงทุนของต่างชาติ ซึ่งจะช่วยฟื้นการลงทุนในประเทศหลังการลงทุนภาคเอกชนชะลอลงในปีที่ผ่านมา
ด้านนักบริหารเงินจากธนาคารไทยธนาคาร จำกัด (มหาชน) ระบุว่า เงินบาทล่าสุดขณะนี้แกว่งตัวอยู่ในช่วง 31.40/60 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ หลังจากที่ ธปท.ประกาศยกเลิกมาตรการกันสำรอง 30% เมื่อสักครู่ที่ผ่านมา โดยเห็นว่าเงินบาทยังมีโอกาสแข็งค่าได้ต่อ ซึ่งต้องจับตาดูมาตรการเสริมต่อจากนี้“ถ้ายกเลิกมาตรการนี้ เงินบาทมันก็แข็งค่าขึ้นต่อ แต่คงยังบอกไม่ได้ว่าแข็งค่าต่อไปที่ระดับใด เพราะต้องแล้วแต่ว่า นโยบายที่รองรับออกมา จะมีผลชะรอความร้อนแรงได้เพียงไหน”

ฮิลลารีชนะหยั่งเสียง 3 รัฐใหญ่ประกาศสู้ต่อ



เส้นทางสู่ทำเนียบขาวของนางฮิลลารี รอดแฮม คลินตัน ยังไม่จบ และยังทำให้อดีตสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งของสหรัฐ ใจชื้นขึ้นมาได้มาก เมื่อเธอสามารถพลิกกลับมาชนะนายบารัค โอบามา คู่แข่งคนสำคัญจากพรรคเดโมแครตในการเลือกตั้งขั้นต้นในรัฐใหญ่ทั้งโอไฮโอ เทกซัสและโรดไอแลนด์เมื่อวันอังคารที่ 4 มี.ค. ที่ผ่านมา ทำให้ความหวังที่จะก้าวสู่ทำเนียบขาวของเธอกลับมาสดใสอีกครั้ง แม้คะแนนคณะผู้แทนของนายโอบามาจะยังนำเธออยู่ก็ตาม โดยการชนะใน 3 รัฐของอดีตสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ปิดฉากความพ่ายแพ้ติดต่อกันมา 11 รัฐในช่วงหนึ่งเดือนที่ผ่านมาของเธอ และเธอกล่าวต่อผู้สนับสนุนในเมืองโคลัมบัส รัฐโอไฮโอ ว่าจะเดินหน้าสู้ต่อไปเพื่อให้ ได้มาซึ่งการเป็นตัวแทนพรรคเดโมแครตลงสู้ศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐหนนี้ ส่วนนายโอบามาชนะศึกไพรมารีในรัฐเวอร์มอนต์ ด้วยคะแนนร้อยละ 59.8-38.3 ซึ่งเป็นชัยชนะติดต่อกันครั้งที่ 12 และยังมีคะแนนนำในรัฐเทกซัส หลังจากเริ่มนับคะแนนได้ 15 นาทีหลังปิดหีบเลือกตั้ง แต่นางฮิลลารีสามารถพลิกกลับมาชนะได้ ส่วนคะแนนในรัฐโอไฮโอ เทกซัส และโรดไอแลนด์ ซึ่งนางฮิลลารีชนะ ได้ร้อยละ 54.3-44.0,50.9-47.4 และร้อยละ 58.4-40.4 ตามลำดับ อย่างไรก็ตาม แม้ วุฒิสมาชิกบารัค โอบามา จะพ่ายแพ้การเลือกตั้งขั้นต้น ในรัฐโรดไอแลนด์ และโอไฮโอ ให้แก่ วุฒิสมาชิกฮิลลารี คลินตัน แต่เขาก็ยังเชื่อว่า จะได้เป็นตัวแทนพรรคเดโมแครตในที่สุด ด้านนายจอห์น แมคเคน วุฒิสมาชิกรัฐแอริโซนา วัย 71 ปี ผู้สมัครจากพรรครีพับลิกัน กวาดชัยชนะในการเลือกตั้งขั้นต้นของพรรคได้ทั้ง 4 รัฐ คือ เทกซัส โรดไอแลนด์ เวอร์มอนต์ และโอไฮโออย่างสบาย ๆ ทำให้เขาได้เป็นตัวแทนพรรค รีพับลิกันไปชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐในปลาย ปีนี้อย่างแน่นอนแล้ว โดยนายแมคเคน ชนะการเลือกตั้งขั้นต้นที่รัฐเทกซัสล่าสุด โดยได้คะแนนร้อยละ 56 เหนือคู่แข่ง คือนายไมค์ ฮัคคาบี ที่ได้ร้อยละ 32 ทำให้เขาได้เป็นตัวแทนพรรครีพับลิกันแล้ว เนื่องจากได้คะแนนตัวแทนรวม 1,229 คะแนน จากที่พรรครีพับลิกันกำหนดไว้ว่าจะต้องมีคะแนนรวมให้ได้ถึง 1,191 คะแนน ด้านนายฮัคคาบี อดีตผู้ว่าการรัฐอาร์คันซอ ได้ประกาศถอนตัวจากการลงชิงตำแหน่งผู้แทนพรรครีพับลิกันแล้ว หลังแพ้ 4 รัฐรวด.

ก่อนหน้านี้ ศึกแย่งชิงกันเป็นตัวแทนพรรคเดโมแครตไปชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ใน 4 พ.ย. ถึงจุดเดือด เมื่อนางฮิลลารี คลินตัน ส.ว.รัฐนิวยอร์ก วัย 60 ปี เปลี่ยนกลยุทธ์หันมาด่านายบารัค โอบามา ส.ว.รัฐอิลลินอยส์ ผิวสี วัย 46 ปี อย่างเผ็ดร้อนหลังการชุมนุมหาเสียงที่รัฐโอไฮโอ เมื่อ 23 ก.พ. ว่า “ไร้ยางอาย” กรณีที่เขาส่งใบปลิวทางไปรษณีย์ 2 ชุดถึงประชาชน โจมตีนโยบายดูแลรักษาสุขภาพและการค้าเสรีของนางคลินตัน
นางคลินตันกล่าวว่า พฤติกรรมดังกล่าวของโอบามา “ไร้ยางอาย” เป็นข้อกล่าวหาที่ผิดอย่างชัดแจ้ง ชักนำให้ประชาชนเข้าใจผิด ทำลายความน่าเชื่อถือของเธอ เธอยังท้าทายให้โอบามาไปเจอกันในการโต้วาทีนัดสุดท้ายที่เมืองคลีฟแลนด์ รัฐโอไฮโอ ใน 27 ก.พ. เพื่อถกกันเรื่องกลยุทธ์หาเสียงของเขา ซึ่งสกปรกไม่ต่างจากของนายคาร์ล โรฟ ผู้วางกลยุทธ์หาเสียงให้ประธานาธิบดี จอร์จ ดับเบิลยู. บุช แห่งพรรครีพับลิกัน จนชนะ และชี้ว่าคำสัญญาของโอบามาที่ว่าจะนำ “การเปลี่ยนแปลง” มาสู่อเมริกา ก็คล้ายกับบุชที่เป็นแค่คำลวง
ใบปลิวของโอบามานอกจากจะโจมตีนางคลินตันเรื่องนโยบายการค้าเสรี รวมทั้งข้อตกลงการค้าเสรีอเมริกาเหนือ (นาฟตา) แล้ว เขายังชี้ว่านโยบายดูแลรักษาสุขภาพแบบครอบจักรวาลของเธอ จะบังคับให้ ประชาชนบางส่วนต้องซื้อประกันสุขภาพ ทั้งที่ไม่อาจทำได้ นายบิลล์ เบอร์ตัน โฆษกของโอบามา ยังยืนยันว่าทุกอย่างในใบปลิวถูกต้องแล้ว นางคลินตันต่างที่หาเสียงโจมตีโอบามาในแง่ลบ ซึ่งถูกประชาชนปฏิเสธ
ด้านหนังสือพิมพ์ “วอชิงตัน โพสต์” รายงานว่า คนสนิทในทีมหาเสียงของนางคลินตันที่ไม่ระบุชื่อคนหนึ่งเผยว่า นางคลินตันเห็นว่าความพ่ายแพ้ในการเลือกตั้งขั้นต้นที่รัฐวิสคอนซิน เมื่อ 19 ก.พ. คือ “จุดชี้ขาด” ว่าเธอจะแพ้โอบามา และเธอได้ตัดสินใจครั้งใหญ่ แล้ว แต่ยังยากที่จะทำใจยอมรับได้ว่าหมดทางสู้ แต่ทีมหาเสียงของนางคลินตันปฏิเสธว่าข่าวนี้ไม่เป็นความจริง เธอยังมุ่งมั่นสู้ต่อไปในรัฐโอไฮโอและเท็กซัสใน 4 มี.ค. ซึ่งมีจำนวนคณะผู้แทนพรรค (เดเลเกต) ให้ช่วงชิงถึง 334 เสียง ซึ่งใครได้ 2,025 เสียง จะได้เป็นตัวแทนพรรค โดยล่าสุด โอบามามีเดเลเกตนำคลินตันอยู่ 1,374 ต่อ 1,275 เสียง หลังเขาชนะใน 11 สนามรวด ซึ่งนางคลินตันจำเป็นต้องเอาชนะในโอไฮโอและเท็กซัสเท่านั้นจึงจะมีสิทธิ์สู้ต่อไปได้ ขณะที่โพลระบุที่เท็กซัสทั้งคู่มีคะแนนสูสีกันมาก ส่วนที่โอไฮโอ ฮิลลารีนำอยู่ 50% ต่อ 42%
ส่วนนายจอห์น แมคเคน ส.ว.รัฐอริโซนา วัย 71 ปี ว่าที่ตัวแทนพรรครีพับลิกัน ยังยืนกรานปฏิเสธข่าวเคยมีสัมพันธ์สวาทกับนักวิ่งเต้นทาง การเมือง “ล็อบบี้ยิสต์” สาวคนหนึ่ง แต่เรื่องนี้ถูกกระพือขึ้นมาอีกเมื่อสื่อฯหลายฉบับเผยว่า คำแก้ตัวของเขาเกี่ยวกับการติดต่อกับบริษัทของล็อบบี้ยิสต์คนนี้ขัดแย้งกันเอง.


ฮิลลารีเกทับโอบามาก่อนเลือกตั้งขั้นต้นที่เท็กซัส, โอไฮโอ [27 ก.พ. 51 - 03:19]
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อ 26 ก.พ.ถึงความคืบหน้าในการรณรงค์หาเสียงของเหล่าผู้ลงสมัคร เป็นตัวแทนพรรคเพื่อชิงชัยในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดี สหรัฐฯเดือน พ.ย. ปลายปี โดยผลการสำรวจความเห็น ครั้งใหม่ ปรากฏว่า นายบารัค โอบามา ส.ว.รัฐอิลลินอยส์ ก็ยังมีคะแนนนำนางฮิลลารี คลินตัน ส.ว.รัฐนิวยอร์กอย่างชัดเจน ขณะที่คะแนนคณะผู้แทนนายโอบามามีคะแนนชนะนางคลินตันในสัดส่วน 1,370-1274.5 เสียง ซึ่งนายโอบามาเอาชนะคะแนนเดเลเกตนางคลินตันมาตั้งแต่ศึกเลือกตั้งซุปเปอร์ทิวส์เดย์ เมื่อ 5 ก.พ. อย่างไรก็ดี ในส่วนคะแนน “ซุปเปอร์เดเลเกต” หรือคณะผู้แทนพิเศษ จำนวนเกือบ 800 คน จนถึงขณะนี้ นางคลินตันมีคะแนนนำนายโอบามา 241-182 เสียง
วันเดียวกัน นางฮิลลารี คลินตัน กล่าวถึงนายโอบามาว่า เสี่ยงที่จะสร้างอันตรายในกิจการด้านต่างประเทศสหรัฐฯ ชี้ว่าเขาจำเป็นต้องมีหนังสือคู่มือเกี่ยวกับพื้นที่ที่เป็นจุดเดือดของโลกหากได้รับเลือกให้เป็นประธานาธิบดี ทั้งนี้ นางคลินตันอยู่ในระหว่างเดินสายรณรงค์หาเสียงอย่างหนักก่อนจะเปิดศึกดวลกันครั้งใหม่จากการเลือกตั้งขั้นต้นในโอไฮโอ และเท็กซัส วันที่ 4 มี.ค. นางคลินตันกล่าวว่า ที่ผ่านมา เธอเพียงถูกทดสอบ และเธอก็พร้อมจะนั่งทำหน้าที่บริหารประเทศ “สำหรับดิฉัน นี่ไม่ใช่ทฤษฎี ชาว อเมริกันไม่จำเป็นต้องเดาว่าฉันจะเข้าใจปัญหาหรือไม่ ดิฉันต้องการคู่มือที่แนะนำผ่านวิกฤตการณ์หรือเปล่า หรือดิฉันต้องพึ่งที่ปรึกษาเพื่อแนะนำดิฉันในกิจการโลกหรือไม่” นางคลินตันกล่าวในเชิงยกยอตนเองเพื่อความได้เปรียบนายโอบามาหากต้องขึ้นเป็นผู้นำประเทศ
ด้านนายโอบามาก็กล่าวหานางคลินตันระหว่างการรณรงค์หาเสียงว่ากระพือแต่เรื่องน่าละอาย หลังปรากฏภาพนายโอบามาสวมชุดคลุมยาวแบบโซมาเลีย และสวมหมวกโพกศีรษะ โดยตกเป็นข่าวซุบซิบในเว็บไซต์ดรัดรีพอร์ต ซึ่งเว็บไซต์ระบุว่า ภาพดังกล่าวถูกเผยแพร่โดยเหล่าที่ปรึกษาคลินตัน
นอกจากนี้ ผลการสำรวจของซีเอ็นเอ็น/โอพิ-เนียน รีเสิร์ช พบว่า นายโอบามามีคะแนนนำในรัฐเท็กซัสเป็นครั้งแรก โดยมีความเป็นไปได้ว่าสมาชิกเดโมแครตร้อยละ 50 จะโหวตสนับสนุนเขา เทียบกับนางคลินตันได้รับเพียงร้อยละ 46 อนึ่ง ประธานาธิบดี จอร์จ ดับเบิลยู. บุช แห่งสหรัฐฯ ทำนายว่า ผู้มีสิทธิ์ออกเสียงจะเลือกผู้มาทำหน้าที่แทนเขาโดยเป็นประธานาธิบดีที่มาจากพรรครีพับลิกัน เพื่อสานต่อนโยบายการต่อสู้ในอิรัก.

วันที่15 มีนาคม เดินทางไปอียิปต์ค่ะ

เส้นทาง : กรุงเทพฯ - ไคโร
เมือง : Cairo (CAI) via Doha (DOH)
สายการบิน : Qatar Airways (QR)
ราคา : 22,300.- บาท/ท่านหมายเหตุ : ไม่รวมภาษีสนามบิน ค่าน้ำมันเชื้อเพลิง และอื่นๆ
เดินทางในชั้นประหยัด (Economy Class : K)


ตารางเวลาบินBKK/DOH 07:50/11:25 QR 613 DOH/CAI 13:00/15:45 QR 514(เวลาบิน 12.55 ชม บินทุกวัน)

เดินทางไป วันที่ 15 มีนาคม เช็คอินก่อนเครื่องออก 07.50 น

แวะโดฮาห์ 1 ชม 35 นาที

ถึงอียิปต์ประมาณ 15.45 น

พักที่โรงแรมไหนเหรอ

ตอนแรกว่าไป หนึ่งสัปดาห์ ดันเพิ่มเป็นสิบวัน กลับ 25 มีนาคม 2551

ถามว่า10 วันทำอะไร

อย่างแรก มี ที่จะต้องเดินทางไป วางแพลนไว้คร่าวๆ อาจปรับเปลี่ยนได้ตามความเหมาะสมของเวลา คือ

1. ไคโร - พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ-ไคโร
- กีซ่า มหาปีระมิดกีเซ
- ล่องเรือแม่น้ำไนล์ -ชมระบำหน้าท้องอันลือชื่อของอียิปต์
2. อเล็กซานเดรีย – หลุมฝังศพใต้ดิน
-เสาปอมเปย์พิลล่าร์
-การแสดงแสงสี เสียง
-อนุสาวรีย์แห่งเมมนอน
-วิหารฮัคเชฟซุต
-เมมฟิส – อาบูซิมเบล
-ซัคคาร่า
3. อัสวาน-มหาวิหารอาบูซิมเบล -อัสวานล่องเรือเฟลุกกะ

-เอ็ดฟู
- ลักซอร์ -คอมออมโบ
-อิสนา
-นครธีปส์
-วิหารลักซอร์
-วิหารคาร์นัค์
- ป้อมซิทาเดล
-หุบผากษัตริย์
- ช้อปปิ้งตลาดข่านเอลคาลีล


เดินทางกลับ 25 มีนาคม 2551
เส้นทาง : ลักซอร์ - กรุงเทพฯ
เมือง : Luxor (LXR)
สายการบิน : Qatar Airways (QR)
ราคา : 26,800.- บาท/ท่านหมายเหตุ : ไม่รวมภาษีสนามบิน ค่าน้ำมันเชื้อเพลิง และอื่นๆ
เดินทางในชั้นประหยัด (Economy Class : Q)
LXR/DOH 15:25/18:55 QR 519 DOH/BKK 20:30/06:50+1 QR 612(เวลาบิน 10.25 ชม บินวัน อังคาร, พุธ, ศุกร์, เสาร์)

ออกจากลักซอร์ 15.25 น
แวะโดฮาห์ (อีกแล้ว) กว่า 1ชม 35 นาที
ถึงไทยก็เช้าวันที่ 26 มีนาคม 2551 แค่ขากลับก็เกือบสิบห้า ชั่วโมงเข้าไปแล้ว

แถมยังต้องกลับมาทำงานต่ออีกวันนั้น

jetlag แหงมๆ

เดอะซักเกอร์ มหันตภัยร้ายข้ามทวีป




เมื่อวันที่ 4 มี.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.ชลบุรี ว่า ได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านภายในซอยหนองใหญ่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ว่าพบปลาเทศบาลหรือปลาซักเกอร์นับหมื่นตัว อาศัยอยู่ตามแนวลำคลองยาวตลอด 1 ก.ม. ซึ่งทำให้ชนิดปลาอื่นๆ จำนวนมากเริ่มสูญพันธุ์ โดยนางเหนียว จันทร์เทพ อายุ 51 ปี บ้านเลขที่ 75/6 หมู่ 6 หมู่บ้านหนองใหญ่ ต.นาเกลือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี กล่าวว่า เมื่อช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา พบว่าปลาซักเกอร์อาศัยอยู่ในคลองบริเวณกลางน้ำ ช่วงบ่อบำบัดน้ำเสียเมืองพัทยา จากนั้นไม่นานก็พบว่าปลาซักเกอร์แพร่พันธุ์รวดเร็วนับหมื่นตัว ทำให้ปลาที่อาศัยอยู่ภายในคลอง อาทิ ปลานิล ปลากระดี่ ปลาหมอ จำนวนมาก เริ่มลดจำนวนลงอย่างรวดเร็ว จึงได้ตัดสินใจเข้าร้องเรียนเพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรีบมาดำเนินการแก้ไขโดยด่วน





ปลาเทศบาล ปลาซัคเกอร์ชื่อวิทย์ Plecostomus spp.ชื่ออังกฤษ suckmouth catfishes
ถิ่นที่อยู่อาศัย...ปลาเทศบาลเป็นปลาที่มีถิ่นกำเนิดในประเทศบราซิล ถูกสั่งเข้ามาในประเทศไทยเพื่อให้เป็นปลาที่ทำความสะอาดตู้ปลา
รูปร่างลักษณะ...ปลาเทศบาลเป็นปลาที่จัดอยู่ในประเภทเดียวกับปลาดุก ปลาแขยง ปลากด เป็นปลาที่มีรูปร่างน่ากลัว พื้นลำตัวเป็นสีน้ำตาลปนเทา มีลายดำประกระจายอยู่ทั่วตัว ครีบอกมีเงี่ยงแข็ง ครีบหลังเป็นครีบกระโดงมีขนาดใหญ่ หางเป็นแฉกเว้าลึก ปลายหางด้านบนและล่างยาวแหลม เกล็ดมีขนาดใหญ่และแข็งคล้ายมีหนามห่อหุ้มตัว



อุปนิสัย...เป็นปลาที่ชอบเกาะนิ่งอยู่กับที่ตามด้านข้างของตู้ปลา โขดหิน ชอบหากินตามพื้นตู้ปลาซึ่งมีเศษอาหาร ตะใคร่น้ำ มีความแข็งแรงและทนต่อสภาพแวดล้อม เข้ากันได้ดีกับปลาทุกชนิด
การเลี้ยงดู...ตู้ปลาควรมีปลาเทศบาล 1 - 2 ตัวเพื่อช่วยเก็บเศษอาหารที่เหลือจากปลาตัวอื่นกิน หากให้อาหารปลาน้อยเกินไป ปลาเทศบาลจะแย่งอาหารปลากิน ห้ามเลี้ยงปลาเทศบาลร่วมกับปลาที่มีเมือกหรือมีกลิ่นคาวจัดเพราะปลาเทศบาลจะดูดกินเมือกจากตัวปลาจนเป็นแผลและอาจถึงตายได้

การแพร่พันธุ์...ควรให้ปลาเทศบาลอยู่กันเป็นฝูงเพื่อจับคู่กันเอง ตัวเมียจะวางไข่เกาะติดตามโพรงไม้และหิน ในบริเวณที่ค่อนข้างสลัว


เพิ่มเติม


ชื่อวิทยาศาสตร์ :Hypostomus plicostomus
แหล่งกำเนิด : มีอยู่ทั่วไปในทวีปอเมริการใต้
ขนาดเฉลี่ย :60 ซม.
อุณหภูมิของน้ำ :24 - 27 ํ C
pH ของน้ำ :6.4-7.2
อุปนิสัย :ัรักสงบ ชอบกบดานตัวอยู่ตามพื้น
การแพร่พันธุ์ :วางไข่
การเลี้ยง :ง่าย
อาหาร :ทุกชนิด


ประมงน้ำจืดจังหวัดน่าน เตือนปลาชักเกอร์ หรือปลาเทศบาล ทำลายแหล่งเพาะพันธุ์ปลาน้ำจืดธรรมชาติ กำลังระบาดในหมู่นักเลี้ยงปลาสวยงาม
ตามที่สถานีประมงน้ำจืดจังหวัดน่าน ได้แจ้งเตือนประชาชนและกลุ่มนักเลี้ยงปลาสวยงาม เกี่ยวกับปลาชักเกอร์หรือปลาเทศบาล เชื่อว่ามันจะช่วยกำจัดขยะ และสิ่งที่ไม่ต้องการในตู้ปลา ทำให้ไม่ต้องล้างตู้ปลาบ่อย ดูดกินอาหาร เศษอาหาร และตะไคร้น้ำ หากว่าปลามีขนาดโตมากเกิน ก็นำไปปล่อยลงในแม่น้ำ ลำคลอง ซึ่งปลาชนิดนี้สามารถแพร่พันธุ์ได้ง่าย ขยายพันธุ์ได้อย่างรวดเร็ว ปัจจุบันได้ระบาดทำลายแหล่งวางไข่ กินไข่ และตัวอ่อนของปลาในแหล่งน้ำตามธรรมชาติ บางชนิดมีจำนวนลดลงและอาจสูญพันธุ์ได้
จากเหตุผลดังกล่าว นายวิวัฒน์ ปรารมภ์ หัวหน้าสถานีประมงน้ำจืดจังหวัดน่าน ได้กล่าวถึงปลาชักเกอร์หรือปลาเทศบาล ว่า ขณะนี้ได้แพร่พันธุ์ในแหล่งน้ำ แม่น้ำ ลำคลอง ในประเทศไทย และเพิ่มจำนวนขึ้นอย่างมาก ไม่ว่าจะไปสำรวจตามแม่น้ำใด นักวิชาการจะพบปลาชนิดนี้ติดแหขึ้นมาเสมอ ซึ่งตอนนี้กำลังหาวิธีการอยู่ว่าจะกำจัดอย่างไร แต่ที่สำคัญต้องให้ความรู้ประชาชนว่า อย่าซื้อปลาชนิดนี้มาเลี้ยง หรือถ้าซื้อมาเลี้ยงแล้วก็ไม่ควรปล่อยลงแหล่งน้ำแต่ควรกำจัดทิ้ง ซึ่งผู้เชี่ยวชาญด้านปลาน้ำจืด กล่าวถึงปลาชนิดนี้ว่า มีความอดทดสูง สามารถอยู่ในแหล่งน้ำเสียได้เป็นอย่างดี ชอบกินของบนหน้าดิน รวมทั้งไข่ปลา แพร่ขยายพันธุ์ได้ง่ายเพียง อายุ 1-2 ปี เท่านั้น ประมาณครั้งละ 500 – 600 ฟอง พบในแหล่งน้ำเกือบทุกแหล่งในภาคกลาง เรื่อยไปถึงภาคเหนือ ซึ่งกำลังเป็นปัญหาในการกำจัด เพราะมีผลกระทบต่อความหลากหลายทางชีวภาพของประเทศไทย
อย่างไรก็ตาม อยากแนะนำให้ประชาชนอย่านำปลาชนิดนี้มาเลี้ยง กรมประมงห้ามนำเข้าแล้ว คนที่มีอยู่แล้วถ้าจะเลิกเลี้ยงขอให้กำจัดไปเลย อย่านำมาปล่อยลงแม่น้ำเพราะจะสร้างความเดือดร้อนกับประเทศไทยในอนาคตอย่างมาก ทำให้ทุกที่ไม่ว่าอ่างเก็บน้ำคลองบึงต่าง ๆ มีปลาชนิดนี้เต็มไปหมด


กำจัดปลาเทศบาล (เกษตรสร้างสรรค์) โดย แนวหน้า วันที่ 24 ธันวาคม 2550


เห็นคุณสมหญิง เปี่ยมสมบูรณ์ อธิบดีกรมประมงคนใหม่ พูดถึงการกำจัดปลาซักเกอร์หรือปลาเทศบาลที่กำลังเป็นปัญหาสำหรับสัตว์น้ำอื่นๆ เนื่องจากซักเกอร์เป็นปลาต่างด้าวที่คนไทยซื้อหามาใช้ในการกำจัดของเสียในตู้ปลาเลี้ยง ละม้ายกับผักตบชวาที่เข้ามาเพราะมองเห็นดอกสีม่วงสวยงาม เอาเข้ามาเลี้ยงและเมื่อไม่เลี้ยงก็ทิ้งแม่น้ำลำคลอง ผักตบเลยเจริญเติบโตล้ำหน้าพืชน้ำอื่นๆ คนเอาซักเกเอร์มาเลี้ยง เลี้ยงไปเลี้ยงมา ปลาในตู้ตายเหลือแต่ซักเกอร์ หรือซักเกอร์โตมากขึ้น เพราะกินทั้งขี้ปลาและเศษอาหารที่หลงเหลือ เจ้าของร้อยทั้งร้อยจับซักเกอร์ไปปล่อยในแหล่งน้ำธรรมชาติ ยิ่งสบายเจ้าซักเกอร์เข้าไปใหญ่ ทั้งอยู่ได้อย่างดีแถมแพร่ลูกหลานได้ด้วย วิธีการที่คุณสมหญิงใช้ในการลดจำนวนซักเกอร์คือให้คนเอาซักเกอร์มาแลกปลาอย่างอื่นที่กำจัดของเสียในตู้ปลาได้ เป็นความคิดที่ดี แต่ในทางปฏิบัติแทบเป็นไปไม่ได้เลยครับ ภาษาพระท่านว่า เหตุเกิดที่ไหน ต้องดับที่นั่น กรมประมงต้องสวมวิญญาณคนถือกฎหมายได้แล้วครับ เวลานี้ลองไปที่สวนจตุจักร1หรือ2 ที่มีโซนขายปลาสวยงาม เขาขายซักเกอร์กันครับตั้งแต่ตัวเล็กจนถึงโตนิดหน่อย แถมยังมีซักเกอร์พันธุ์ใหม่เข้ามาอีก ผมไม่รู้ว่าเจ้าหน้าที่กรมประมงมุดหัวอยู่ไหนละครับ ถึงปล่อยให้คนนำซักเกอร์มาขายโครมคราม ท่ามกลางนโยบายของอธิบดีประมงคนใหม่ที่ต้องการขจัดซักเกอร์ออกไป กรมประมงไม่ต่างจากหลายกรมในกระทรวงเกษตรฯที่หย่อนยานทอดธุระกับเรื่องอย่างนี้ ปล่อยให้พ่อค้าขายของต้องห้ามได้ทุกเสาร์-อาทิตย์ กระทั่งวันธรรมดาตามร้านค้าทั่วไป วันดีคืนดีค่อยหยิบยกขึ้นมาพูดให้เป็นประเด็นสักหน่อย แต่ท่านรู้ไหมว่าพ่อค้าเขาเห็นข่าวทีไร หัวร่อท้องแข็งทุกที ว่าไม่มีน้ำยา น้ำอิ๊ว อันใด อธิบดีสมหญิงครับ ผมคิดว่ากรมประมงน่าจะมีแนวคิดใหม่ที่จัดการเรื่องอย่างนี้นะครับ เพราะในท้องตลาดเขาขายสารพัดปลา จะปลาถูกต้อง ปลาผิดกฎหมายอย่างเจ้าการ์ตูนนีโม่ก็เห็นค้าขายกันเกลื่อน ชนิดที่เดินไปก็บ่นไปว่า แล้วเจ้าหน้าที่บ้านเมืองของประเทศไทยเขารับประทานเงินภาษีของใครกันแน่ หรือว่ามือหนึ่งรับเงินเดือนจากภาษีของพวกผมที่เป็นราษฎร อีกมือหนึ่งรับเงินพิเศษจากพ่อค้าเพื่อปล่อยให้ค้าขายปลาสวยงามอย่างเสรีโดยไม่อินังขังขอบกับกฎหมาย ผมเชียร์ให้ท่านทำก่อนที่ชาวบ้านทั่วไปจะเห็นว่า การทำผิดกฎหมายเป็นเรื่องธรรมดาครับ


พอใจ สะพรั่งเนตร


when i was young

when i was young
like a boy

จัดให้เต็มๆ

จัดให้เต็มๆ
มองไรนักหนา ไม่เคยเห็นคนน่ารักไง คนไรก็ไม่รู้