ขอน้อมอาลัย สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์

เว็บนี้สามารถใช้งานได้ตามปกติแล้ว



ร่วมเติมเต็มทุกหัวใจของคนที่มีรักได้ที่นี่

แล้วคุณจะรู้ว่า
ปรารถนาจะเป็นผู้สั่งการ
หัวใจคือผู้เร่งเร้าให้รุ่มร้อน
เรือนกายคือผู้ปฏิบัติตามปรารถนา
ทุกสิ่งจะเป็นไปตามครรลองของมันเองทุกประการ

ที่นี่จะรวมบทวิจารณ์ รวมถึงข่าวสารสาระที่เป็นประโยชน์ต่างๆไว้
โดยเฉพาะที่มาจากความคิดเห็นของผู้แต่งเอง
ทั้งนี้ผู้แต่งจะไม่ขอรับผิดชอบใดๆ อันเกิดจากการนำข้อความดังกล่าวที่ปรากฏในบล็อกไปใช้อย่างไม่เหมาะสม
เข้ามาร่วมแสดงความคิดเห็น ติชม กันเยอะๆนะคะ
ขอบพระคุณไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะคะ


ด้วยความปราถนาดี

R-ka



ผู้เยี่ยมชมสามารถเข้าชมได้อีกบล็อกนึง คือ

http://www.rka-state.vox.com/


Mariah Carey - Bye Bye

lay on my high-heels

lay on my high-heels
งานบายเนียรปี2008 ค่ะ

วันอาทิตย์ที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2551

หนู..."สอบไม่ติด" แต่...ชีวิตต้อง "เดินต่อ"






ตอน : หนู..."สอบไม่ติด" แต่...ชีวิตต้อง "เดินต่อ"
"...สุดที่รัก โทรมาช่วยรับหน่อย..." เสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้นในช่วงเช้าของวันนี้ ปลุกผมให้สะดุ้งขึ้นจากความฝันอันแสนหวานที่กำลัง "จุ๊กกะจิ๊กจู๋จี๋" กับน้อง "เทย่า" ซึ่งเป็นผลพวงจากการดูละคร "นางแมว เมี๊ยว แซบอีหลี" เมื่อคืนวันก่อน แล้วเก็บเอา มาฝันเป็นตุเป็นตะว่ากำลัง "หวานหยดจนมดมารุมไต่ตอม" กะน้องเทย่าผู้น่ารักนั่นเอง
"ใครโทรมาวะเนี่ย...?" ผมงัวเงียขึ้นจากที่นอน ซึ่งจริงๆ แล้ว เสียงเรียกเข้าเพลงนี้นั้น ผม "สงวนลิขสิทธิ์" ไว้ให้กับคนในครอบครัวเท่านั้น ซึ่งมีเพียง "สี่เบอร์" ที่จะมีเสียงเพลง นี้เล็ดลอดออกมาให้ผมได้ยินได้ เบอร์แรกก็คือ เบอร์ที่บ้านของผม เบอร์สองก็น้องชายผม เบอร์ที่สามก็เบอร์คุณพ่อ และเบอร์สุดท้ายก็คือ "หลานสาวสุดรักสุดหวง" คนเดียวของผม นั้นเอง อ้อ! เกือบลืม เดี๋ยวจะหาว่า "ละเมิดลิขสิทธิ์" ไม่ต้องห่วงนะครับ "อากู๋" ผมเสียเงิน ดาวน์โหลดเพลงนี้มาอย่าง "ถูกต้องตามกฎหมายทุกประการทั้งปวง" ครับ สบายใจได้เลย



"น้าทู...หนู "สอบไม่ติด" ค่ะ" เสียงปลายสายดังมาทันทีที่ผมกดรับสายด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ ซึ่งผมคิดว่า "ไม่ใช่" สาเหตุจากคลื่นความถี่มีปัญหาอย่างแน่นอน มันเป็นเสียงสั่นจากอารมณ์ และความรู้สึกของหลานสาวในช่วงเวลานี้อย่างแน่นอน "อะไรนะ" ผมตอบกลับไปอย่างมึนงง "หนูสอบไม่ติด ไม่มีชื่อหนูเลย" เสียงของหลานสาวที่ส่งมาตามสายเริ่มที่จะสั่นเป็นจังหวะระรัว มากขึ้นกว่าครั้งแรก ความง่วงเหงาหาวนอนที่มีอยู่ภายในหัวของผมต่างพากัน "วงแตกแยกย้าย" สลายตัวไปจากหัวสมองโดยทันที หลังจากได้รับการยืนยันคำตอบจาก "หลานสาว" อีกครั้งหนึ่ง
..........
..........
..........
"ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร เดี๋ยวน้าทูโทรหาน้าตี๋ก่อน ให้แม่เอ็งพากลับบ้านมาดีๆ นะ" ผมปลอบหลาน โดยที่ในหัวยัง "คิด" หาทางออกกับเรื่องนี้ไม่ได้เลย เมื่อวางสายแล้ว ผมรีบโทรหาน้องชายทันที "เออ..ว่าไง มีอะไรวะ" เสียงน้องชายของผมงัวเงียงึมงัมพึมพัมมาตามสายโทรศัพท์ "ไอ้เฟริสท์ "สอบไม่ติด" ว่ะ โทรหาเพื่อนเอ็งให้ "ช่วย" ได้มั๊ยวะ" ผมตอบกลับไปโดยทันที "อะไรนะ มันสอบไม่ติดเหรอเนี่ย" น้องชายคงมีอาการเดียวกับผม หลังจากที่ได้รับรู้เรื่องราว เนื่องจากครอบครัวของผมมี "หลานสาว" เป็นหลานคนแรก และมีเพียงแค่คนเดียวในตอนนี้ เนื่องจากผมและน้องชาย "บ่มีไก๊" เอ๊ย! ยังไม่มีน้ำยา อุ๊ย! ไม่มีครอบครัวเป็นของตัวเองนั่นเอง ซึ่งครอบครัวของพี่สาวผมมาประสบภาวะ "ล้มละลายในสถาบันครอบครัว" ทำให้ผมและพ่อแม่ รับ "หลานสาว" มาอยู่ในความดูแลเพื่อไม่ให้เป็น "เด็กมีปัญหา" และสร้างเรื่องปวดหัวให้แก่ สังคมที่ "ฟอนเฟะ" อยู่แล้วให้ "เละตุ้มเป๊ะ" กว่าที่เป็นอยู่โดยใช้ "ความรัก ห่วงใยดูแลเอาใจใส่" เป็นวัคซีนป้องกันโรค "ไข้หวัดเด็กมีปัญหา" ที่กำลังระบาดไปทั่วชุมชนสังคมเมืองไทยนั่นเอง



"ไหนมันบอกว่า "มั่นใจ" ทำข้อสอบได้ไงวะ" น้องชายผมถามคำถามกลับมาที่ผมอีกครั้ง "ไม่รู้สิ" ผมตอบไปตามความคิดของผมจริงๆ เพราะไม่สามารถรู้ว่า เพราะเหตุใด "หลานสาว" ผมถึงสอบเข้า ม.1 โรงเรียน "ใกล้บ้าน" ที่ไม่ใช่ "โรงเรียนมัธยมเกรดเอ" ที่ใครๆ ต่างพากัน กระเสือกกระสนทำทุกวิถีทางให้ลูกหลาน "มีรายชื่อ" ในนักเรียนที่สามารถสอบเข้าเรียนต่อได้
..........
..........
..........
ในตอนแรกพ่อของผมได้มาถามผมว่ามีคนรู้จักสามารถ "ฝาก" เข้าโรงเรียน "เลดี้-สตั๊ดดี้" ซึ่งเป็น "โรงเรียนเกรดเอ" ได้ (ถ้าอยากรู้ว่า เลดี้-สตัดดี้ คือโรงเรียนอะไร แปลเอาเองนะจ๊ะ) โดยเราต้องเตรียม "เงินฝาก" เข้าไปยังธนาคารในชื่อของ "สถานศึกษา" ซึ่งเป็นเรื่องที่แปลก ในวงการธนาคาร นั่นคือ ธนาคารสถานศึกษานั้น "ฝากเงิน" แล้ว ดอกเบี้ยก็ไม่ได้ และไม่สามารถ ที่จะถอน "เงินฝาก" กลับคืนมาได้ ซึ่งก็หมายความว่า ฝากแล้วไม่รับคืนไม่ว่าจะกรณีใดๆ ก็ตาม ผมเอ่ยถามผมว่าเค้าให้เตรียม "เงินฝาก" เท่าไร พ่อผมบอกตัวเลขมาเล่นเอาผม "อึ้งกิมกี่" ไป ชั่วขณะ เพราะไม่เชื่อว่าการสอบเข้าโรงเรียนรัฐบาลที่มีชื่อเสียงนั้น จะมีค่ามีราคาได้ถึงขนาดนี้ ผมเคยอ่านหนังสือพิมพ์เห็นข่าวว่า "กระทรวงศึกษาฯ" รับประกันว่าจะไม่มี "แป๊ะเจี๊ยะ" ในปีนี้ สงสัยกระทรวงศึกษาฯ คงจะไป "ล้วงลูกกระทรวงเกษตรฯ" มากไปหน่อย ถึงได้ทำให้คนใหญ่ คนโตในกระทรวงศึกษาฯ "เอาหูไปนา เอาตาไปไร่" กับพฤติกรรม "เส้นๆ ฝากๆ แป๊ะๆ เจี๊ยะๆ" ที่ยังคงมีอยู่ในโรงเรียนดังๆ หรือกระทรวงคิดว่านี่คือ "โบนัส" ให้กับโรงเรียนเหล่านั้นก็เป็นได้


ผมคิดว่าผมตัดสินใจ "ถูก" ที่ให้หลานสาวสอบเข้าเรียนยังโรงเรียนใกล้บ้าน ที่เคยเป็นสถานที่ "ประสิทธิประสาทวิชา" ให้กับผม พี่สาว และน้องชาย ในสมัยเด็กๆ ทั้งครอบครัว ซึ่งโรงเรียนนี้ ถือว่า "ดีที่สุด" ในละแวกบ้าน และผมก็มีความ "มั่นใจ" อยู่ลึกๆ ว่าโรงเรียนแห่งนี้ คือ โรงเรียน ประจำตระกูล เรียนตั้งแต่ "แม่ น้า ยัน ลูกหลาน" อีกทั้งยังเชื่อใน "ความสามารถ" ของหลานสาว ว่า "สอบติด" โดยไม่ต้องใช้ "กำลังภายใน" อาศัยชื่อเสียงเก่าๆ ของผม ที่ทำให้กับโรงเรียนนี้ หรืออาศัยความสนิทชิดเชื้อกับอาจารย์ของ "น้องชาย" เบิกทาง หรือพูดง่ายๆ ว่า "ใช้เส้นสาย" เนื่องจากครอบครัวผมนั้น ไม่เคยคิดที่จะใช้วิธี "เส้นสาย" ให้มาเป็นพฤติกรรมที่เคยชินในชีวิต แต่แล้ววันนี้กลายเป็นว่าผมตัดสินใจ "ผิด" ที่ไม่ได้ช่วยเหลือ "หลานสาว" ทั้งๆ ที่สามารถทำได้ และนั่นก็ทำให้ผมเข้าใจว่าความ "มั่นใจ" ไม่สามารถเทียบได้กับคำว่า "ชัวร์" แม้แต่นิดเดียว
"เฮ้ย แม่เพื่อนบอกว่า ทำไมเพิ่งมาบอกตอนนี้วะ" น้องชายผมโทรกลับมาบอกข่าวอีกครั้ง "ก็คิดว่ามันทำได้น่ะสิวะ แล้วเค้าว่าไงล่ะ" ผมตอบน้องชาย พร้อมกับตั้งคำถามกลับ "เค้าให้วัดดวง "จับฉลาก" ว่ะ แม่เพื่อนมัน "ฝาก" เต็มโควต้าแล้ว" น้องผมตอบมาอีกครั้ง "อืมม์..." ผมรู้สึกพูดไม่ออกไปชั่วครู่หนึ่ง ไม่น่าเชื่อเลยว่า "โรงเรียน" ที่ผมศึกษามาในสมัยเด็ก ก็ได้รับกรรมวิธีการ "วัฒนธรรมฝากเงิน" มาจาก "โรงเรียนเกรดเอ" ไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว "ยังไงถ้าไม่ได้ ก็ให้มันเรียน "เอกชน" แถวๆ บ้านก็ได้ ไม่ต้องคิดมากหรอกว่ะ" น้องชายผมกล่าว ประโยคนี้ออกมา ซึ่งตัวผมคิดว่าน่าจะเป็นการ "ปลอบใจ" กันเองระหว่างน้าชายทั้งสองคน "เออ ว่างั้นแหละ แต่งานนี้ สงสารแต่ "ไอ้เฟริสท์" มันว่ะ" ผมตอบกลับน้องชายไปอีกครั้ง "หึ หึ หึ เดี๋ยวเย็นๆ ลองโทรหาแม่เพื่อนดูอีกที ได้เรื่องยังไงจะโทรมาบอกแล้วกัน แค่นี้ก่อนโว้ย" เจ้าน้องชายผมตัดบทวางสาย ซึ่งผมเองรับรู้ได้ว่า น้องชายของผมนั้นมี "ความรักและความ ห่วงใย" ต่อหลานสาวคนนี้ ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าสมาชิกคนใดในครอบครัวของผมเลย


หลังจากวางสายน้องชายแล้ว ผมกลับมานั่งคิดทบทวนเรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อเช้าที่ผ่านมา ได้แต่ตั้งคำถามในใจว่า "ทำไม...?" โรงเรียนรัฐบาลในละแวกบ้านมี "มากมาย" หลายโรงเรียน ถึงไม่สามารถมี "คุณภาพในการเรียนการสอน" เท่าเทียมกันทุกโรงเรียน ถึงได้ทำให้ "นักเรียน" แห่แหนกันไปสอบเข้าแค่เพียง "โรงเรียนเก่า" ของผมเพียงแห่งเดียว ทั้งๆ ที่รัศมีของสถานที่ ตั้งบางโรงเรียนใกล้บ้านกว่าโรงเรียนเก่าของผมอีก "การจัดการ" กระจาย "คุณภาพการศึกษา" ของกระทรวงที่รับผิดชอบโดยตรงอยู่ที่ไหนหรือ โรงเรียนที่ดีก็ดีสุดโต่ง ที่แย่ก็แย่สุด "TEEN" หน่วยงานที่วัดผล และปรับปรุงโครงสร้างทางการศึกษามีหน้าที่ "กินก๋วยเตี๋ยวในช่วงตอนเช้า กับตอนเย็น" หรือที่เรียกกันว่า "เช้าชาม-เย็นขาม" แค่นั้นหรือ ผมอดคิดไม่ได้ว่า "เด็กๆ" ที่ประสบ "ชะตากรรม" เดียวกับหลานสาวผมที่ "สอบไม่ติด" จะมี "อนาคตทางการศึกษา" เป็นอย่างไร
หลานสาวผมนั้น อาจจะมี "ทางเลือก" ที่ไปเรียนต่อ "โรงเรียนเอกชน" ดีๆ สักที่หนึ่ง ซึ่งคง เป็นการศึกษาที่มีการ "ลงทุน" สูงกว่าโรงเรียนรัฐบาล แต่ถ้าให้เลือกไปเรียน "โรงเรียนรัฐบาล" ที่ด้อย "คุณภาพทางการศึกษา" แล้ว ผมขอเลือก "เสียทรัพย์" เพื่อแลก "วิชา" ให้กับหลานสาว เสียดีกว่า เพราะสุภาษิตก็บอกไว้แล้วว่า "มีวิชาเหมือนมีทรัพย์อยู่นับแสน" หรือว่าไม่จริงครับ


ผมเป็นห่วงพวกเด็กๆ ที่ฐานะของครอบครัวไม่มี "กำลัง" ส่งเข้าไปเรียนยังสถานศึกษาดีๆ ได้ การพัฒนาทางการศึกษาของพวกเขาจะเป็นเช่นไร ต้องจมปลักกับการเรียนการสอนแบบ "ห่วยๆ" ไปอีกถึงเมื่อไหร่ แล้วอนาคตข้างหน้าเขาจะสามารถแข่งขันกับบรรดา "นักเรียน" ที่มาจากสถาน ศึกษาดีๆ ได้หรือไม่ ถึงตอนนี้อาจจะมีคนแย้งว่าผมกำลัง "ดูถูก" โรงเรียนเหล่านั้นมากเกินไปหน่อย ผมคิดว่าเราต้อง "ยอมรับ" ว่าเกิด "ปัญหา" เรื่องคุณภาพในสถานศึกษาที่เรียกว่า "โรงเรียน" จริงๆ ผมไม่เชื่อว่า "ทุกโรงเรียน" จะมีการเรียนการสอนเหมือนกันหมด เพราะถ้าเป็นเช่นนี้ ผมคงจะไม่เห็น "ภาพข่าว" นักเรียนแห่กันไปสอบโรงเรียนชื่อดังเป็น "เรือนหมื่น" โดยที่รับได้เพียง "พันต้นๆ" ซึ่ง ผมก็ไม่สามารถล่วงรู้ได้ว่า จากพันต้นๆ ลบด้วย "เงินฝาก" จะเหลือ "สอบเข้า" จำนวนจริงอยู่เท่าไร
..........
...........
..........
สุดท้ายนี้ ผมก็อยากจะให้ความคิดของผมได้ล่องลอยไปยัง "กระทรวงศึกษาธิการ" เผื่อจะมี "ปาฏิหาริย์" ครั้งใหญ่กับการศึกษาไทยภายในอนาคตที่จะมีการศึกษาที่เท่าเทียมกัน หากจะลดหลั่น ก็ขอให้ลดหลั่นกันที่ไม่แตกต่างกันราว "ฟ้ากับเหว" อย่างที่เป็นอยู่ในตอนนี้ แล้วก็อยากจะให้ระบบ "วัฒนธรรมเส้นสายและเงินฝาก" สลายไปจากสถาบันการศึกษาในทุกๆโรงเรียนในประเทศไทย เพราะอะไรรู้ไหมครับ ผมเชื่อใน "กงกรรม-กงเกวียน" น่ะสิครับ ผมเชื่อว่าคนที่ "ลงทุน" เข้าไป โดยใช้ "เส้นสายและเงินฝาก" แล้วในอนาคตเมื่อเขามีหน้าที่การงานที่ "มีอำนาจ" ในการคัดเลือก เด็กนักเรียนเข้า "ศึกษา" ในสถานศึกษาชื่อดังเหล่านั้นได้...คุณคิดเหมือนกับผมบ้างไหมว่า
..........
..........
..........
...........
..........
งานนี้มี..."ถอนทุน"...คืนอย่างแน่นอน

ปัจฉิมลิขิต : ขอบพระคุณภาพ-เสียง จากอินเตอร์เนท ขอบคุณคร๊าบ

1 ความคิดเห็น:

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ขอบคุณค่ะสำหรับบทความดีๆ

when i was young

when i was young
like a boy

จัดให้เต็มๆ

จัดให้เต็มๆ
มองไรนักหนา ไม่เคยเห็นคนน่ารักไง คนไรก็ไม่รู้